นักฟุตบอลบางคนอาจทำได้ดีในระดับสโมสรแต่กลับไปไม่ถึงไหนในการรับใช้ทีมชาติ แล้วฮวน โรมัน ริเกลเม่ก็ถือหนึ่งในนั้น เพราะทั้งๆที่เค้ามีศักยภาพครบถ้วนจนหลายคนฟันธงว่าเค้านี่ละคือจอมทัพที่จะพาทัพฟ้าขาวกลับมาสุกสกาวได้อีกครั้งแต่ทว่าพอเอาเข้าจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ฮวน โรมัน ริเกลเม่คือมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่ประสบความสำเร็จกับโบคาร์ จูเนียร์ตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เค้ากลายเป็นโกลเดนบอยแห่งวงการลูกหนังอาร์เจนติน่า แต่เมื่อได้รับโอกาสลงเล่นทีมชาติเป็นครั้งแรกในวัย 21 ปี ริเกลเม่กลับไม่อาจฉายแสงได้ดังหวัง กรปรกับการย้ายไปตกต่ำกับบาเซโลน่าในสเปนก็ทำให้พัฒนาการที่น่าจะก้าวไปข้างหน้าของริเกลเม่ต้องหยุดชะงักลง
ฤดูกาล 2003/04 ริเกลเม่ถูกส่งไปให้บียารีลยืมตัว ซึ่งในสีเสื้อตราเรือดำน้ำนี่เองที่จอมทัพฟ้าขาวค่อยๆกลับมาทำผลงานได้อย่างโดดเด่นอีกครั้ง จนสามารถพาทีมคว้าแชมป์อินเตอร์โตโต้คัพได้ในปี 2004 ได้สำเร็จ ผลงานดังกล่าวทำให้ริเกลเม่ถูกเรียกตัวกลับได้รับโอกาสกลับมารับใช้ชาติอีกครั้ง แล้วในวันที่ 8 มิถุนายน 2005 ริเกลเม่ก็โชว์ฟอร์มเทพกับทีมชาติได้เสียที เมื่อเค้าพาทีมเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่างบราซิลไป 3-1 ในลงเตะฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก นั่นทำให้แฟนบอลอาร์เจนไตน์ต่างตั้งความหวังว่าริเกลเม่จะนำพาทัพฟ้าขาวกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง
ช่วงปี 2005-2008 ริเกลเม่ลงเล่นเป็นตัวหลักให้ทีมชาติอาร์เจนติน่าอย่างต่อเนื่อง แล้วถึงแม้จะพาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้ถึงสองรายการคือคอนเฟดเดอเรชั่นคัพ 2005 และโคปา อเมริกา 2007 แต่ก็พลาดท่าได้เพียงรองแชมป์ในทั้งสองรายการ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงสนามดวลกับบราซิลในอีก 4 ครั้งต่อมา ผลปรากฎว่าริเกลเม่ไม่สามารถพาทีมเอาชนะแซมบ้าได้อีกเลย (เสมอ 1 แพ้ 3 ) แถมยังเล่นไม่ออกจนไม่มีทำชื่อประตูและแอสซิสต์เลยแม้แต่หนเดียว
ในปี 2008 ริเกลเม่จะพาทีมชาติอาร์เจนติน่าชุด U-23 คว้าเหรียญทองโอลิมปิคได้สำเร็จในฐานะนักเตะอายุเกินโควต้า(เลือกติดทีมมาได้สามคน) แต่ทว่าก็ไม่เคยได้กลับไปรับใช้ทีมชาติชุดใหญ่อีกเลย ริเกลเม่จึงได้ได้เพียงปิดฉากการรับใช้ทีมชาติอาร์เจนติน่าไว้ที่ 47 นัดยิงได้ 17 ประตูพร้อมทำทางอีก 14 แอสซิสต์