ทั้งทีแจ้งเกิดมากับศูนย์ฝึกลามาเซียของบาเซโลน่าแต่ทว่าผู้รักษาประตูเปเป้ เรน่ากลับมีวาสนาในการค้าแข้งที่ไม่สวยหรูนัก เค้าต้องสู้อย่างหนักเพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งนั่นรวมถึงการย้ายไปผจญภัยกับบาเยิร์นมิวนิคในปี 2014 ด้วยเช่นกัน
เปเป้ เรน่า ถูกบาเซโลน่าดึงเข้าสู่ทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2000 แต่ด้วยความที่เจ้าบุญทุ่มผลักดันริชาร์ด ดูทูแอลมือกาวฝรั่งเศสและโรแบร์โต้ โบนาโน่มือกาวฟ้าขาวมากกว่า เรน่าจึงเลือกย้ายไปหาโอกาสลงสนามกับบียารีลในปี 2002 แล้วช่วงเวลาที่อยู่กับทัพเรือดำน้ำเค้าแสดงให้เห็นว่ามีความเหนียวแน่นไม่แพ้ใคร เรน่าพาบียารีลทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศในปี 2004 รวมถึงการพาทีมเข้าร่วมการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร
ปี 2005 เค้าจึงถูกราฟา เบนิเตซดึงตัวไปช่วยเฝ้าหลังบ้านให้กับลิเวอร์พูล เรน่าอยู่ช่วยป้องกันประตูให้ทัพหงส์แดงอยู่หลายปี แม้จะมีถ้วยรางวัลติดมืออยู่บ้างแต่เมื่อเปลี่ยนผู้จัดการทีมมาเป็นแบรนดอร์น ร็อดเจอร์นายประตูชาวสเปนก็กลายเป็นส่วนเกิน ลิเวอร์พูลหันไปวางใจให้ซิมง มิโญเลย์เป็นมือหนึ่งแทนส่วนเรน่าก็ถูกปล่อยยืมให้นาโปลีไปใช้งาน ที่อิตาลี่เรน่าก็ยังสร้างมาตรฐานการเล่นได้อย่างน่าพอใจ เค้าเก็บได้ 13 คลีนชีตพานาโปลีจบอันดับ 3 ในลีกและเป็นแชมป์โคปา อิตาเรีย แต่กระนั้นเมื่อจบสัญญายืมตัวอัซซูร่าก็เล่นเชิงไม่คิดจะซื้อขาดเรน่าไว้ใช้งานเสียอีก
วันที่ 5 สิงหาคม 2014 เรน่าที่ไม่มีทางเลือกมากนักก็จำใจต้องออกไปเผชิญโชคครั้งใหม่ที่เยอรมัน เมื่อลิเวอร์พูลตกลงขายเค้าให้กับบาเยิร์นมิวนิคที่ราคา 3 ล้านยูโร แต่มันดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่ถูกจังหวะ เพราะประตูมือหนึ่งของเสือใต้ ณ เวลานั้นคือมานูเอล นอยเออร์ที่เพิ่งเยอรมันคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกและเล่นได้อย่างมั่นใจ เรน่าจึงแทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลย เค้าได้เล่นเพียง 3 นัดตลอดฤดูกาล และสุดท้ายก็ได้ย้ายออกไปตายรังกับนาโปลีในปีถัดไป เหลือไว้เพียงความน่าเสียดายที่ผู้รักษาประตูฝีมือดีคนนี้ไม่อาจพิสูจน์ฝีมือให้แฟนบอลเยอรมันได้เป็นที่ประจักษ์ เพราะ ณ จนถึงเวลานี้เรน่าก็ยังคงพเนจรเฝ้าเสาต่อไปเรื่อยในหลายต่อหลายลีก แต่ก็ไม่เคยกลับได้รับโอกาสกลับมาเฝ้าประตูในเวทีบุนเดสลีก้าอีกเลย