ด้วยผลงานอันย่ำแย่ในครึ่งแรกของฤดูกาล 2004/05 ทำให้กุนซือลุคชอมบูร์โก้ได้มาร่วมงานกับรีลมาดริด ทว่านายใหญ่แซมบ้าก็ถูกไล่ออกหลังรับงานได้เพียง 11 เดือน
มันคือช่วงเวลาที่รีลมาดริดอุดมไปด้วยแข้งระดับสตาร์ ไม่ว่าจะเป็นหลุยส์ ฟิโก้,ซีนาดีน ซีดาน,โรนัลโด้R9และเดวิด เบ็คแฮม นั่นทำให้การยังไม่สามารถแซงขึ้นไปอยู่หัวตารางได้ซักทีถือเป็นผลงานที่ต่ำกว่าเป้าหมาย ว่าแล้วรีลมาดริดก็จัดแจงเปลี่ยนกุนซือไปแล้วถึงสองคน ก่อนจะไปดึงตัวกุนซือวันเดอร์เลย์ ลุคชอมบูร์โก้มาจากลีกบราซิลในในเดือนธันวาคม 2004
จริงอยู่ว่าลุคชอมบูร์โก้ประสบความสำเร็จมามากมายในบ้านเกิด แถมยังเพิ่งจะพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์โคปา อเมริกามาแบบไร้พ่าย(1999) แต่ความจริงที่น่ากังวลคือเค้ามีประสบการณ์คุมทีมยังต่างแดนไม่มากนัก นั่นทำให้ลุคชอมบูร์โก้ผ่านฤดูกาลแรกกับราชันย์ชุดขาวด้วยการเป็นรองแชมป์
ทว่าฤดูกาลถัดมารีล มาดริดมีนักเตะเจ็บเยอะจนทำให้ผลงานทีมดร็อบลงไป กระทั่งแพ้คาบ้านต่อบาร์เซโลน่าไป 0-3 พร้อมกับการร่วงจากตำแหน่งจ่าฝูง วันที่ 4 ธันวาคน 2005 รีลมาดริดประกาศปลดลุคชอมบูร์โก้อย่างเป็นทางการ กุนซือชาวแซมบ้าหยุดสถิติคุมลอส บลังโกสไว้ที่จำนวน 45 นัด แล้วมันก็คงเป็นฝันร้ายสำหรับวันเดอร์เลย์ ลุคชอมบูร์โก้ เพราะหลังจากวันนั้นเค้าไม่เคยกลับมารับงานในยุโรปอีกเลย ส่วนรีลมาดริดก็เข็ดขยาดไม่แพ้กัน เพราะตราบถึงบัดนี้ราชันย์ชุดขาวก็ไม่เคยให้งานกุนซือที่เป็นชาวแซมบ้าอีกเลย
