นับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่ยุค 2000 วงการฟุตบอลฝรั่งเศส ถือว่าคึกคักเป็นอย่างมากด้วยนักเตะซุปเปอร์สตาร์อย่าง ซีนาดีน ซีดาน ,เธียร์รี่ อองรี ,โรแบร์ ปิแรส ,ปาทริค วิเอร่า และดาวิด เทรเซเก้ เท่านั้นยังไม่พอเด็กรุ่นหลังของวงการลูกหนังเมืองน้ำหอมก็มีเพชรที่รอการเจียรไนอยู่หลายคน และหนึ่งในนั้นก็คือ ซามี่ นาสรี่
ซามี่ นาสรี่ นั้นเติบโตมากับอะคาเดมี่ของโอลิมปิค มาร์กเซย เค้าคือนักเตะเกมรุกที่ไปกับบอลได้ดีมีพรสวรรค์ และทำให้เค้าได้อยู่กับโอเอ็มได้เพียง 4 ปี เท่านั้นก่อนจะถูก อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือจอมปั้นของอาร์เซนอลดึงไปใช้งานต่อ ภายใต้สีเสื้อปืนใหญ่ นาสรี่ พัฒนาขึ้นมาเป็นเพลเมกเกอร์ระดับแถวหน้าของพรีเมียร์ลีกได้อย่างน่าประทับใจ แต่ทว่าน่าเสียดายที่ทีมปืนใหญ่ในยุคนั้นกลับไม่สามารถคว้าถ้วยรางวัลได้เลย โดยนาสรี่ทำได้ดีที่สุดเพียงการตำแหน่งรองแชมป์ลีกคัพหลังจากพ่ายทีมรองบ่อนอย่างเบอมิ่งแฮมไป 1-2 นั่น ทำให้นาสรี่อยากก้าวต่อไปเพื่อใฝ่หาความสำเร็จ
แล้วจุดสูงสุดในชีวิตการค้าแข้งของนาสรี่ก็มาถึงเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2011 เค้าย้ายไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยเม็ดเงิน 25 ล้านปอนด์ หลังจากย้ายมาสวมยูนิฟอร์มสีฟ้าเค้าระเบิดฟอร์มเก่งจนพาทีมตราเรือใบเถลิงแชมป์พรีเมียร์ เป็นสมัยแรกได้สำเร็จ แต่กระนั้น นาสรี่ ก็ค่อนข้างมีข่าวฉาวเกี่ยวกับพฤติกรรมด้านอื่นๆ เค้าเป็นนักเตะประเภทที่คิดว่าตัวเองแน่และไม่จำเป็นต้องไว้หน้าใคร เพราะขนาดรุ่นพี่ในทีมชาติฝรั่งเศสอย่าง วิลเลี่ยม กัลป์ลาส เค้าก็พร้อมที่จะวัดรอย และนั่นมันทำให้ ดิริเย่ร์ เดร์ช็อง กุนซือเลอเบลอส์ปฏิเสธที่จะใส่ชื่อนาสรี่เป็น 1 ใน 23 ขุนพลตราไก่ไปเตะฟุตบอลโลก 2014 ทั้งที่จริงๆแล้วฝีเท้าของเค้ากำลังพีกแบบสุดๆ แต่มันก็ไม่ได้ให้บทเรียนอะไรกับเค้ามากนัก เมื่อนาสรี่ยักไหล่ประกาศเลิกเล่นทีมชาติโดยทันที ทั้งที่ในเวลานั้นเค้ามีอายุเพียง 27 ปี เท่านั้น
หลังจากนั้นกราฟชีวิตของเพลเมกเกอร์ชาวฝรั่งเศสก็ตกลงเรื่อยๆมีอาการบาดเจ็บรบกวนจนไม่ค่อยได้เล่นกับ แมนซิตี้ จากนักเตะดังที่ใครๆก็อยากได้ตัวกลายเป็นนักฟุตบอลที่ต้องระหกระเหินไปหาทีมเล่นแบบเจ้าไม่มีศาล เมื่อเค้าถูกปล่อยตัวในปี 2017 ทำให้ต้องย้ายไปอันตาเลียสปอร์ในลีกตุรกีแต่ทว่ากลับโดนลงโทษแบนในข้อหาให้สารกระตุ้นเกินขนาดระหว่างการรักษาอาการบาดเจ็บจนต้องห่างหายไปจากวงการฟุตบอลราว 6 เดือน ต่อมาเค้าก็ย้ายฟรีไปอยู่กับ เวสต์แฮม และอันเดอร์เลช ตามลำดับ อย่างไรก็ตามล่าสุดเจ้าตัวก็เลือกที่จะไม่ไปรายงานตัวกับอันเดอร์เลช ในช่วงล็อคดาวน์จากการระบาดของโควิด-19 จนถูกต้นสังกัดยกเลิกสัญญาและปล่อยตัวเป็นอิสระอีกครั้งเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยนับจนถึงเวลานี้นาสรี่ก็ยังคงเป็นแข้งไร้สังกัดอยู่เหมือนเดิม
เขียนโดย DT-1
