ใครๆก็ทราบดีว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดภายใต้การทำทีมของเซอร์ อเล็ก เฟอกูสันนั้นยิ่งใหญ่เกรียงไกรเหลือเกิน พวกเค้าคว้าถ้วยรางวัลมาได้ครบถ้วนในทุกรายการ ทำให้บางคนหลงคิดไปว่าใครก็ตามที่จะได้มาคุมแมนยูฯต่อจากเฟอกี้ย่อมประสบความสำเร็จกันได้ง่ายๆ ซึ่งมันเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ แล้วคนที่รู้ซึ้งเรื่องนี้ที่สุดก็คือเดวิด มอยส์
แม้ผลงานก่อนหน้าที่กับเอฟเวอร์ตันจะไม่เคยได้แชมป์ใดๆเลย แต่ด้วยความที่เป็นคนสก็อตแลนด์ด้วยกันก็ทำให้เซอร์ อเล็ก เฟอกูสันตัดสินใจเลือกเดวิด มอยส์ให้เป็นคนมาคุมแมนยูฯต่อหลังวางมือ แล้วการนั่งแท่นกุนซือแมนยูฯก็ดูจะเกินมือไปหน่อยสำหรับมอยส์
ฤดูกาล 2013/14 ปีศาจแดงในยุคของเดวิด มอยส์เปิดตัวได้ไม่สู้ดีนัก เมื่อทีมแพ้ไปถึง 3 จาก 7 เกมแรก แถมหนึ่งในนั้นยังเป็นความปราชัยต่อคู่ปรับตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูล นั่นทำให้กระแสแฟนบอลและสื่อต่างกดดันไปที่กุนซือเลือดขี้เมาอย่างหนัก นั่นยิ่งทำให้ผลงานทีมดูกระท่อนกระแท่นหาความแน่นอนไม่ได้ แมนยูฯไม่อาจเก็บชัยชนะยามเล่นในบ้านได้เมื่อก่อน หนำซ้ำมอยส์เองก็ดูมีปัญหากับการรับมือกับนักเตะระดับสตาร์ เพราะสมัยคุมเอฟเวอร์ตันมอยส์แทบไม่เคยรับมือกับผู้เล่นชื่อดังเลย แตกต่างจากแมนยูฯที่ในทีมล้วนเต็มไปด้วยแข้งระดับซุปเปอร์สตารทั้งนั้น
หลังบุกไปพ่ายเอฟเวอร์ตัน 0-2 จนดูจะหมดสิทธิชิงโควตาไปเตะถ้วยสโมสรยุโรป เค้าจึงตกอยู่ภายใต้ความกดดันว่าอาจไม่ได้คุมทีมต่อถึงจบฤดูกาล วันที่ 22 เมษายน 2014 แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดประกาศแยกทางกับเดวิด มอยส์อย่างเป็นทางการ อดีตนายใหญ่ท็อฟฟี่ยุติการทำงานกับทีมดังแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ไว้ที่ 51 เกมเท่านั้น จนถึงทุกวันนี้ชื่อของเค้าก็ยังคงเป็นที่แสลงหูสำหรับชาวเรดอาร์มี่ ทั้งที่จริงๆแล้วผลงานการคุมทีมของมอยส์จะยังดูดีกว่าหลุยส์ ฟาล กัลด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยมอยส์ก็ยังพาทีมเก็บชัยได้ถึง 52.94% ขณะที่กุนซือจอมปรัชญา ฟาล กัลเก็บชัยชนะได้เพียง52.43%