สำหรับผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าทีมชาติอังกฤษแล้วส่วนมากแล้วพวกเค้าก็มักจะเป็นกองหน้าที่ทำผลงานได้โดดเด่นจนติดธงมาตั้งแต่ชุดเยาวชน แต่ใครจะคาดคิดว่าเจมี่ วาร์ดี้กองหน้าที่เริ่มต้นเล่นฟุตบอลในระดับลีกสมัครเล่นจะทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งศูนย์หน้าของทัพสิงโตคำรามได้สำเร็จแม้จะร่วงเข้าวัยถึง 28 ปีแล้วก็ตาม
เจมี่ วาร์ดี้คือกองหน้าที่เริ่มต้นฝึกหัดฟุตบอลกับอะคาเดมี่ของเชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ อย่างไรก็ตามเค้าไม่ได้รับการเซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ทำให้วาร์ดี้อยู่ในสถานะนักเตะไร้สังกัดอยู่หลายปี ก่อนที่ฮาลิแฟรกซ์ทาวด์จะเซ็นสัญญากับเค้าในปี 2010 สุดท้ายวาร์ดี้ในวัย 23 ปีจึงได้ลงเล่นฟุตบอลอาชีพในระดับลีกสมัครเล่น อย่างไรก็ตามเค้าฉายแววโดดเด่นเหนือใครด้วยการสปีดความเร็วที่หาตัวจับยาก และการจบสกอร์ที่เฉียบคม
ในปี 2012 วาร์ดี้ย้ายทีมมาอยู่กับเลสเตอร์ซิตี้ด้วยค่าตัว 1.7 ล้านปอนด์ซึ่งถือเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดสำหรับลีกสมัครเล่น หลังจากนั้นเค้าก็กลายเป็นกำลังสำคัญของทัพจิ้งจอกสยามมาโดยตลอด วาร์ดี้พาเลสเตอร์เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จในปี 2014 แล้วถึงแม้จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการช่วยทีมหนีตกชั้นแต่ทว่าวาร์ดีก็ได้รับโอกาสเรียกติดธงทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกในปี 2015
วันที่ 21 พฤษภาคม 2015 เจมี่ วาร์ดี้ประกาศเรียกติดทีมชาติอังกฤษเป็นครั้งแรกในการอุ่นเครื่องกับศาธารณรัฐ ไอร์แลนด์(ลงเล่นในเดือนมิถุนายน 2015) ทำให้เค้าถูกเรียกมารับใช้ชาติเป็นครั้งแรกในชีวิตด้วยวัยถึง 28 ปี นับแต่นั้นมาฝีเท้าของวาร์ดี้ก็ยิ่งพีคขึ้นไปอีกเมื่อเค้าซัด 24 ประตูพาเลสเตอร์ซิตี้ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อย่างเหนือความคาดหมาย แล้วนั่นก็ส่งผลให้วาร์ดี้กลายเป็นหัวหอกขาประจำของทัพสิงโตคำรามเป็นเวลาถึง 4 ปีด้วยกัน ก่อนจะประกาศลาทีมชาติไปในปี 2018 โดยให้เหตุผลว่าต้องการรักษาสภาพร่างกายเพื่อรับใช้ต้นสังกัดอย่างเลสเตอร์ สุดท้ายแล้ววาร์ดี้ติดธงไปทั้งสิ้น 26 นัดยิงได้ 7 ประตู