โธมัส แบร์ดาริชไม่ใช่กองหน้าขาประจำของทีมชาติเยอรมันแล้วก็ไม่ได้มีดีกรีถ้วยรางวัลติดมือด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเค้าก็ช่วงเวลาที่น่าจดจำอยู่บ้างกับเลเวอร์คูเซ่น แล้วนั่นก็กลายเป็นใบเบิกทางให้เส้นทางค้าแข้งของแบร์ดาริชมาบรรจบกับฮันโนเวอร์ในปี 2003
ช่วงยุค 90 ถือเป็นยุคเรืองรองของเยอรมัน เมื่ออินทรีเหล็กควบทั้งแชมป์โลก(1990)และยุโรป(1996) แต่ถึงอย่างนั้นแบร์ดาริชก็ไม่เคยมีเอี่ยวกับความสำเร็จตรงนั้นเลยและใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในระดับลีก้าสอง ในปี 1999 บุญหล่นทัพโธมัส แบร์ดาริชเข้าอย่างจัง เมื่อไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่นดึงตัวเค้ามาร่วมทีม นั่นจึงทำให้เค้าได้มีโอกาสโชว์ฝีเท้าในลีกสูงสุดของเยอรมันกับเค้าบ้าง และถึงแม้จะไม่ได้ชูถ้วยรางวัลกับทัพห้างขายยา แต่อย่างน้อยแบร์ดาริชก็ได้ชื่อว่าอยู่ในยุคที่ดีที่สุดของเลเวอร์คูเซ่น เมื่อเค้าจบในอันดับรองแชมป์ลีกสองครั้ง ผ่านประสบการณ์ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกรวมถึงมีชื่อติดทีมชาติเยอรมัน
ปี 2003 แบร์ดาริชเริ่มไม่เป็นที่ต้องการของทัพห้างยาและไม่ค่อยได้ลงสนาม แต่ฮันโนเวอร์ 96 ทีมในกลุ่มหนีตายกลับมองว่าแบร์ดาริชน่าจะช่วยพวกเค้าได้ สุดท้ายเลเวอร์คูเซ่นจึงปล่อยโธมัส แบร์ดาริชให้ฮันโนเวอร์ยืมตัวใช้งานในฤดูกาล 2003/04 แล้วเค้ามีชื่อบนสกอร์บอร์ดตั้งแต่เกมแรกที่ลงเล่นกับฮันโนเวอร์ เมื่อแบร์ดาริชยิง 1 ประตูในเกมนัดเปิดฤดูกาลช่วยให้ทีมบุกไปชนะฮัมบูร์ก 3-0 แล้วปีนั้นฮันโนเวอร์ก็รอดตกชั้นตามเป้า พวกเค้าจบอันดับ 14 มีแต้มเหนือโซนตกชั้น 5 แต้มโดยมีโธมัส แบร์ดาริชเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูมากสุดด้วยจำนวน 12 ประตู เครดิตตรงนั้นยังทำให้ฮันโนเวอร์ 96 คว้าตัวโธมัส แบร์ดาริชมาร่วมทีมอีกครั้งในปี 2005 แล้วเค้าก็อยู่ช่วยทีมกระทั่งสตั๊ดในปี 2008