แม้สมัยค้าแข้งไมเคิล เลาดรู๊ปจะได้ชื่อว่าเป็นมิดฟิลด์ชั้นยอดสมัยยังค้าแข้ง แต่เมื่อแขวนเกือกไปแล้วผลงานการเป็นผู้จัดการทีมของเค้ากลับโดดเด่นเทียบเท่า แต่ถึงอย่างนั้นเทรนเนอร์ชาวเดนมาร์กก็ยังเป็นที่บูชาแฟนบอลสวอนซี ซิตี้
หลังแขวนสตั๊ดเลาดรู๊ปก็เริ่มงานโค้ชกับทีมชาติเดนมาร์กในช่วงแรก ก่อนจะมาเริ่มงานผู้จัดการทีมเป็นครั้งแรกกับบรอนบี้ในบ้านเกิด แม้จะพาบรอนบี้คว้าถ้วยรางวัลได้ถึง 5 ใบในช่วงเวลา 4 ปี แต่มันก็เป็นเพียงความสำเร็จในลีกเล็กๆของเดนมาร์กเท่านั้น ในปี 2007 เลาดรู๊ปจึงอัพเลเวลตัวเองด้วยการออกมารับงานคุมทีมในต่างแดนกับเกตาเฟ่(ลาลีก้า) เค้าเกือบพาทีมคว้าถ้วยโกป้า เด เรย์ได้สำเร็จเมื่อเกตาเฟ่ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็พลาดท่าต่อบาเลนเซียไปอย่างน่าเสียดาย
เลาดรู๊ปยังคงเดินหน้าพิสูจน์ผลงานในบทบาทผู้จัดการทีมต่อกับสปาร์ตัก มอสโกและรีลมายอร์ก้าแต่ก็ยังไม่มีถ้วยรางวัลติดมือ วันที่ 15 มิถายน 2012 ไมเคิล เลาดรู๊ปฉลองวันเกิดครบรอบ 48 ปีด้วยการรับงานคุมสวอนซีซิตี้สู้ศึกพรีเมียร์ลีก ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายของทีมหงส์ขาวคือการต่อสู้เพื่อหนีตกชั้นเท่านั้น
แต่ทว่าผลงานที่เค้าทำได้ในอังกฤษกลับดีเกินคาด เลาดรู๊ปพาทีมรอดตกชั้นได้ตามเป้าแถมยังผงาดคว้าแชมป์ลีกคัพได้สำเร็จในฤดูกาล 2012/13 อีกต่างหาก ซึ่งนั่นถือเป็นถ้วยรางวัลระดับเมเจอร์รายการแรกของสวอนซีในรอบร้อยปี ฉะนั้นถึงแม้ปีต่อมากุนซือเลือดโคนมจะไล่ออกเพราะผลงานในลีกที่ย่ำแย่ แต่กระนั้นไมเคิล เลาดรู๊ปก็ยังได้ชื่อเป็นผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรของของสวอนซีซิตี้อยู่ดี
