ผลพวงจากของการคว้าแชมป์พรีเมียร์แบบเหนือคาดทำให้เลสเตอร์ซิตี้ได้สัมผัสการแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นครั้งแรกแถมยังผลงานได้อย่างน่าตกใจอีกด้วย
ปกติแค่จะได้เล่นพรีเมียร์ลีกแต่ละปียังลุ้นเหนื่อย ทำให้โอกาสจะได้สัมผัสการแข่งขันระดับสโมสรยุโรปนั้นแทบไม่ต้องคิด ทำให้การได้ร่วมแข่งขันยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในปี 2016 ของ “ จิ้งจอกสยาม ” นั้นถูกจับตามองเป็นพิเศษ โอกาสดีคือเลสเตอร์ดันอยู่ในสายที่ไม่แข็งมากนัก เมื่อดูจากเพื่อนร่วมกลุ่มยูซีแอลที่มีเอฟซี ปอร์โต้,เอฟซี โคเปนเฮเนและคลับบรูกก์ เลสเตอร์จึงจบรอบแบ่งกลุ่มด้วยการเป็นทีมอันดับหนึ่ง
มันทำให้เลสเตอร์ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้สำเร็จ ซึ่งนั่นก็ถือว่ามาไกลมาแล้วสำหรับทีมที่เพิ่งมาเล่นถ้วยหูใหญ่สุดของยุโรปเป็นครั้งแรก ทำให้การแพ้เซบีญ่า 1-2 ในเลกแรกรอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อเซบีญ่าหลายคนมองว่ามันคงจบแล้วสำหรับเลสเตอร์ วันที่ 14 มีนาคม 2017 เลสเตอร์ได้กลับมาเล่นในคิงพาวเวอร์ สเตเดี้ยมในเลกสองท่ามกลางแฟนบอลที่เข้ามาให้กำลังใจกว่า 31,000 คน แล้วก็อาจเป็นเพราะเสียงเชียร์ที่มากมายเลสเตอร์จึงพลิกสถานการณ์กลับมาชนะเซบีญ่า 2-0 ผลรวมสองนัดเลสเตอร์ชนะ 3-2 และได้ไปต่อในรอบควอเตอร์ไฟนอล
ในรอบถัดมาเลสเตอร์แพ้แอตเลติโกมาดริดรวมสองเลก 1-2 แต่การได้มาเล่นถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกของ “ จิ้งจอกสยาม ” ก็ถือว่าเป็นที่ฮือฮาเอามากๆ หนำซ้ำมันยังเป็นผลงานดีที่สุดตลอดกาลของเลสเตอร์ซิตี้ในระดับสโมสรยุโรปอีกด้วย
