หลังติดธงมาอย่างยาวนาน คาริม บาร์เกรี่ฉลองการยิงประตูที่ 50 กับทีมชาติอิหร่านในปี 2009 นั่นเป็นประตูสุดท้ายในนามทีมชาติและยังทำให้บาร์เกรี่กลายเป็นรองดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของอิหร่านอีกด้วย
ในยุค 90 ถือเป็นยุคทองของวงการฟุตบอลอิหร่านเมื่อนักเตะอิหร่านข้ามฝากมาค้าแข้งในยุโรปอย่างหนาตา โดยคาริม บาร์เกรี่ก็คือหนึ่งในนั้น เค้าผ่านการค้าแข้งทั้งในเยอรมันและอังกฤษ และเป็นนักเตะอิหร่านคนแรกที่ได้สัมผัสเกมพรีเมียร์ลีก นั่นทำให้ช่วงปลายยุค 90 บาร์เกรี่กลายเป็นกองกลางที่โดดเด่นเป็นลำดับต้นๆของอิหร่าน
เมื่อเข้าสู่ยุค 2000 บาร์เกรี่มีอาการบาดเจ็บรบกวนบวกกับผลงานในอังกฤษก็ไม่เป็นใจ แถมยังไม่สามารถพาอิหร่านชวดไปเตะฟุตบอลโลก 2002 มรสุมตรงนั้นทำให้เค้าประกาศอำลาทีมชาติ ทว่าต่อมาบาร์เกรี่ก็เปลี่ยนใจยอมกลับมาติดธงอีกครั้งหลังปี 2008 เค้ากลับมารับใช้ชาติอีกราวสามปีก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ด และยิงประตูที่ 50 ของตัวเองในเกมรอบคัดเลือกการแข่งขันเอเชียนคัพที่ชนะสิงคโปร์ 6-0 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2009
คาริม บาร์เกรี่ติดธงต่อไปจนปี 2010 แต่ก็หยุดยิงประตูในนามทีมชาติไว้เพียง 50 ประตู อย่างไรก็ตามสถิติการรับใช้ชาติ 87 นัดยิงได้ถึง 50 ลูกก็ถือเป็นสถิติที่ว๊าวมากสำหรับนักเตะที่เล่นในตำแหน่งกองกลาง ปัจจุบันบาร์เกรี่เป็นดาวยิงสูงสุดลำดับสองของทีมชาติอิหร่าน โดยเค้ายิงได้น้อยกว่าอาลี ดาอี(108 ประตู)เพียงคนเดียวเท่านั้น