แม้ มิชาเอล บัลลัค อาจมีดีกรีเป็นนักเตะที่คว้าถ้วยรางวัลในอาชีพค้าแข้งมาไม่น้อย แต่ทว่ามิดฟิลด์ชาวเยอรมันกลับมีประสบการณ์ที่น่าเจ็บปวดเมื่อต้องชวดแชมป์ถึงสามรายการกับเลเวอร์คูเซ่นในปี 2002 รวมไปไม่เคยสัมผัสถ้วยในระดับทีมชาติกับเค้าเลย แถมประสบการณ์อันเลวร้ายเหล่านี้มันมักจะเกิดขึ้นในวันที่ 12 พฤษภาคมมันซะอย่างนั้น
มิชาเอล บัลลัค นั้นเริ่มเป็นที่รู้จักในฐานะกองกลางดาวรุ่งของไกเซอร์สเลาเทิร์นในฤดูกาล 1997/98 ซึ่งปีนั้นปีศาจแดงดำคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้อย่างสุดเซอร์ไพรซ์(เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา)ทำให้บัลลัคถูกไบเออร์เลเวอคูเซ่นคว้าตัวไปร่วมทัพพร้อมกับเริ่มติดธงอินทรีเหล็กเป็นครั้งแรก
แล้วบัลลัคก็กลายเป็นจอมทัพของทีมห้างขายยาจนพาทีมขึ้นมามีลุ้นแชมป์ถึงสามรายการในฤดูกาล 2001/02 แต่เมื่อฟ้ากลั่นแกล้ง เลเวอคูเซ่นมาฟอร์มหลุดช่วงโค้งสุดท้ายจนปิดฤดูกาลเพียงอันดับสองของตารางบุนเดสลีก้า หนำซ้ำแม็ตซ์ชิงชนะเลิศถ้วยเดเอฟเบโพคาลที่ดวลกับชาลเก้ 04 เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2002 บัลลัคก็ไม่อาจช่วยให้ทีมเอาชนะได้ตามเป้าอีกต่างหาก เมื่อทีมของเค้าโดนราชันย์สีน้ำเงินไล่ต้อนไป 2-4 อย่างน่าเจ็บใจ
ความเจ็บช้ำที่พลาดเป้าทำให้ช่วงเวลานั้นความสำเร็จของบัลลัคพังทลายลงมันทุกราย เพราะนัดชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกในอีกไม่กี่วันต่อมาห้างยาก็พ่ายรีลมาดริดไปอีก 1-2 แม้บัลลัคจะกลับมามีลุ้นแชมป์ฟุตบอลโลกด้วยฟอร์มที่แข็งแกร่งของทีมชาติเยอรมันแต่ก็ดันไปพลาดท่าตกม้าตายในรอบชิงชนะเลิศอีกตามเคยด้วยการพ่ายบราซิลไป 0-2
อาถรรพ์วันที่ 12 พฤษภาคมยังคงไม่หมดหายไปจากชีวิตของบัลลัค ในปี 2008 เค้าติดทีมชาติเยอรมันเพื่อไปเตะยูโร2008 แล้วในวันที่ 12 พฤษภาคม 2008 บัลลัคก็สวมปลอกแขนกัปตันทีมลงดวลกับโครเอเชียในรอบแรก ผลปรากฏว่าทัพอินทรีเหล็กก็พ่ายโครเอเชียไปอีก 1-2 แล้วถึงแม้ความปราชัยจะไม่มีผลต่อการเข้ารอบ ทว่าในท้ายที่สุดพวกเค้าก็ได้เพียงบทพระรองตามเคยเมื่อต้องพ่ายสเปนไปฉิวเฉียด 0-1 ในนิดชิงชนะเลิศ