หลังผ่านยุครุ่งเรืองที่ได้แชมป์ยูโร 1984 ภายใต้ฝีเท้าของมิเชล พลาตินี่ ทีมชาติฝรั่งเศสก็ผลงานตกต่ำอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะไม่สามารถคว้าถ้วยรางวัลเพิ่มได้แล้ว ทัพเลอเบลอก็ยังพลาดโอกาสไปลุยฟุตบอลโลกถึงสองครั้งสองคราได้แก่ในปี 1990 และ 1994 นั่นทำให้แฟนบอลตราไก่ต่างคาดหวังกับการแข่งขันฟุตบอลโลก 1998 เป็นอันมาก เนื่องจากครั้งนี้ฝรั่งเศสได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันในรอบสุดท้ายอย่างแน่นอนในฐานะที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
อันที่จริงแล้วก็มีหลายชาติที่เป็นตัวเต็งสำหรับการแข่งขันฟร้องซ์ 98 ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติบราซิลที่นำทีมโดยดาวดังอย่างโรนัลโด้ R9, อาร์เจนติน่าที่มีดาวยิงอย่างกาเบรียล บาติสตูต้าและแชมป์ยูโร 96 ที่เพิ่งผ่านมาอย่างทีมชาติเยอรมัน แต่ทัพตราไก่เองก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างแข็งขันจนค่อยๆเติมเต็มความมั่นใจให้กับตัวเองได้อย่างเป็นลำดับ
ฝรั่งเศสจบรอบแรกด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มจากผลงานชนะสามเกมรวดโดยเสียเพียงแค่ประตูเดียว ก่อนจะหลุดเข้าไปกำราบปารากวัยในรอบ 16 ทีม,ชนะจุดโทษเหนืออิตาลี่ในรอบ 8 ทีมและเฉือนชนะโครเอเชียในรอบรองจนทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จตามเป้า
วันที่ 12 กรกฎาคม 1998 ทัพตราไก่โคจรมาเจอกับทีมเต็งแชมป์อย่างบราซิล แล้วถึงแม้ชื่อชั้นรวมไปถึงฟอร์มการเล่นพวกเค้าจะเป็นรองทัพแซมบ้า แต่ด้วยเสียงเชียร์จากแฟนบอลรวมไปถึงฟอร์มการเล่นอันสุดสะเด่าของซีนาดีน ซีดานก็กลับทำให้เกิดเรื่องพลิกล็อคขึ้นจนได้ ซีดานเหมาคนเดียวสองประตูพาฝรั่งเศสเอาชนะไปได้ในท้ายที่สุดถึง 3-0 ส่งผลให้ทีมชาติฝรั่งเศสก้าวผ่านยุคมืดของตัวเองได้สำเร็จ พร้อมผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกอีกด้วย