หลายคนอาจหลงเข้าใจว่ามีเพียงแต่กลาสโกส์เรนเจอร์ และกลาสโกส์เซลติกเท่านั้นเจ๋งพอจะโชว์ศักยภาพในเวทียุโรป โดยหารู้ไม่ว่ายังอีกหนึ่งสโมสรจากแดนขี้เมาที่เคยสร้างปรากฎการณ์ครั้งสำคัญในการแข่งขันยูฟ่าคัพวินเนอร์คัพ หนำซ้ำยังหักปากกาเซียนด้วยการปราบยอดทีมจากสเปนอย่างรีลมาดริดอีกต่างหาก
ย้อนกลับในช่วงทศวรรษ80 สโมสรอเบอร์ดีน ภายใต้การทำทีมของอเล็ก เฟอร์กูสันนั่นกลายเป็นเสือตัวใหม่แห่งแดนวิสกี้ เมื่ออเบอร์ดีนผงาดขึ้นมาคว้าแชมป์ลีกสก็อตได้ในฤดูกาล1979/80 โดยนักเตะตัวชูโรงอย่างจิม เลห์ตัน,กอร์ดอน สตัคคั่น,วิลลี่ มิลเลอร์ และอเล็ก แม็คริชทำให้อเบอร์ดีนกลายเป็นทีมคุ้นหน้าคุ้นตาในบอลถ้วยยุโรปอยู่พักใหญ่
แล้วไฮไลต์สำคัญก็มาถึงในฤดูกาล1982/83 เมื่ออเบอร์ดีนที่เพิ่งอกหักได้เพียงรองแชมป์ลีกได้สิทธิไปลุยถ้วยยูฟ่า คัพ วินเนอร์คัพ แล้วเฟอร์กี้ก็ปลุกขวัญกำลังใจนักเตะเพื่อหวังคว้าความสำเร็จในเวทียุโรปให้เป็นเกียรติประวัติสโมสร อเบอร์ดีนต้องเริ่มก้าวแรกด้วยการลงเตะเพลย์ออฟ แต่เฟอร์กี้ก็พาทีมชนะมาได้ต่อเนื่อง โดยผลงานที่โดดเด่นคือการกำราบบาเยิร์นมิวนิคในรอบควอเตอร์ไฟนอล นั่นทำให้ในท้ายที่สุดพวกเค้าก็ทะลุเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
วันที่ 11 พฤษภาคม 1983 อเบอร์ดีนลงชิงดำกับรีลมาดริดที่โกเตเบิร์ก(สวีเดน) ใครๆก็คิดว่าราชันย์ชุดขาวของกุนซือ ดิ สเตฟาโน่ ที่ชื่อชั้นเหนือกว่าหลายช่วงตัวจะเอาชนะได้ไม่ยาก แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อเอริค แบล็คซัดให้อเบอร์ดีนออกนำตั้งแต่7นาทีแรก แม้ฆัวนิโต้จะยิงตีเสมอให้รีลมาดริดให้สกอร์เท่ากันในช่วง90นาทีของเกม แต่สุดท้ายจอห์น ฮิววิทตัวสำรองก็ลงมาพังประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษให้อเบอร์ดีนเฉือนชนะได้อย่างสุดมหัศจรรย์2-1 แล้วนั่นก็เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่อเบอร์ดีนได้แชมป์ระดับสโมสรยุโรป แล้วอีกไม่กี่ปีต่อมาอเล็ก เฟอร์กูสันก็ย้ายไปประกาศศักดาความเป็นยอดกุนซือกับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด