บางครั้งความสำเร็จกับบางสโมสรก็อาจไม่การันตีว่าเมื่อผันมารับงานคุมทีมอื่นแล้วจะสำเร็จได้แบบเดียวกัน แล้วตัวอย่างจากผลงานของแฟรงค์ เดอ บัวร์กับคริสตัลพาเลซก็คงพิสูจน์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
แฟรงค์ เดอ บัวร์เป็นกองหลังดีกรีทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่ค้าแข้งในยุค 90 หลังแขวนสตั๊ดไป เจ้าตัวก็กลับไปเริ่มงานคุมทีมกับอาร์แจ็ก อัมสเตอร์ดัมในบ้านเกิด แล้วก็ทำผลงานได้ดีเสียด้วย แฟรงค์ เดอ บัวร์คุมอาร์แจ็กระหว่างปี 2010-2016 พร้อมการเป็นแชมป์ลีกดัตซ์ 4 สมัย แล้วผลงานดังกล่าวก็เรียกแขกให้ทีมต่างๆสนใจอยากได้ตัวแฟรงค์ เดอ บัวร์ไปคุมทีม
ปี 2016 แฟรงค์ เดอ บัวร์เดินทางออกมารับงานคุมทีมนอกชาติบ้านเกิดเป็นครั้งแรกกับอินเตอร์มิลาน แล้วถึงแม้จะตกม้าตายภายในเวลาเพียง 4 เดือนด้วยผลงานที่ย่ำแย่ แต่เครดิตที่สร้างมากับอาร์แจ็กก็ยังพาแฟรงค์ เดอ บัวร์ให้ได้งานชิ้นต่อไป ในช่วงซัมเมอร์ 2017 คริสตัลพาเลซแต่งตั้งแฟรงค์ เดอ บัวร์เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แทนที่แซม อัลลาไดซ์ที่ทำทีว่าจะเลิกคุมทีมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า(อีกไม่นานก็รับงานคุมเอฟเวอร์ตันซะงั้น)
แต่ผลงานของทัพปราสาทเรือนแก้วก็แย่หนักแพ้รวด 4 เกมติดในพรีเมียร์ลีก ทำให้ภายหลังจากพ่ายต่อเบิร์นลี่ย์ 0-1 เพียงวันเดียวแฟรงค์ เดอ บัวร์ก็ตกงาน วันที่ 11 กันยายน 2017 คริสตัลพาเลซทำการปลดแฟรงค์ เดอ บัวร์อย่างเป็นทางการ ทำให้กุนซือชาวดัตซ์เอาชื่อมาทิ้งในแผ่นดินอังกฤษอย่างหมดราศี เพราะเค้าถูกไล่ออกหลังจากรับงานคุมทีมได้เพียง 77 วัน อย่างไรก็ตามผลงานตอนหลังที่แฟรงค์ เดอ บัวร์หันไปคุมดีซียูไนเต็ดก็กลับมาคว้าถ้วยรางวัลได้อีกครั้ง และงานปัจจุบันของเค้าก็คือการคุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์