ผู้รักษาประตูนั้นถือว่าเป็นตำแหน่งที่น่าเห็นใจ ทำดีกี่ครั้งก็ไร้ค่าถ้าทีมไม่ได้ผลการแข่งขัน หนำซ้ำหากก่อความผิดพลาดแบบจังๆก็ยังโดนด่าแบบสาดเสียเทเสีย แล้วนายประตูคาร์วิด อัสกรี้ก็ดูเหมือนจะรู้สึกเรื่องนี้เป็นอย่างดี
คาร์วิด อัสกรี้ ใช้เวลาทั้งชีวิตเล่นฟุตบอลในลีกบ้านเกิด จะว่าไปผู้รักษาประตูชาวโมร็อกโกก็ไม่มีใครรู้จักมากนักหรอก เพราะระหว่างปี 1998-2012 สโมสรต้นสังกัดเค้าคือ “ เอเอส ฟาร์ ราบัต ” ที่คนอ่านหลายท่านก็เพิ่งจะเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตามการแข่งขันฟุตบอลถ้วยปี 2010 ได้ทำให้ชื่อของอัสกรี้กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
วันที่ 10 กันยายน 2010 เอเอส ฟาร์ ราบัต โคจรมาเจอกับ มาห์เกร็บ เฟสซึ่งทั้งสองทีมยิงกันไม่ได้ในเวลา 120 นาทีจนต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ ช็อตโลกตะลึงเกิดขึ้นตามมาเมื่อผู้เล่นมาห์เกร็บยิงบอลไปทางขวามือซึ่งคาร์วิด อัสกรี้ผวาไปปัดได้ เค้าลุกขึ้นหันไปหาแฟนบอลชูมืออย่างสะใจด้วยความมั่นใจว่าลูกยิงคู่แข่งไม่มีโอกาสจะเป็นสกอร์แน่ โดยหารู้ไม่ว่าในเวลาเดียวกันนั้นบอลเจ้ากรรมมันติดสปินแล้วก็ค่อยไหลข้ามเส้นเข้าประตูไป จังหวะดังกล่าวจึงกลับกลายเป็นฝั่งมาห์เกร็บยิงเข้าและยังเป็นผู้ชนะไปในที่สุดที่สกอร์ 7-6
ความเผอเรอจนทำทีมแพ้ว่าแย่แล้ว แต่เรื่องมันกลับไปไกลกว่านั้นเมื่อคลิปจังหวะป้องกันจุดโทษแบบสุดเปิ่นถูกแชร์ออกไปในโลกโซเชียล แล้วยอดผู้เข้าชมก็ทะลักเป็นหลักล้านครั้งภายในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว วีรกรรมครั้งนั้นจึงทำให้คาร์วิด อัสกรี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ไม่กี่ปีต่อมาเค้าก็ยังมีชื่อติดทีมชาติโมร็อกโก(2013) โชคดีไปที่อัลกรี้ได้มีโอกาสลงรับใช้ชาติเพียงสามหนไม่งั้นแฟนบอลโมร็อกโกคงได้หัวใจวายตาย