มันเป็นห้วงเวลาสุดท้ายในระดับพรีเมียร์ลีกของวิมเบิลดันกับกุนซือที่มีโปรไฟล์พอสมควรจากการคุมทีมชาติอย่างเอกิล โอลเซ่น
ข้อเท็จจริงคือวิมเบิลดันถูกยกให้เป็นทีมจอมโหดด้วยสไตล์การเข้าบอลหนักถึงลูกถึงคนช่วงยุค 80 ทว่าเมื่อฟุตบอลอังกฤษก่อตั้งพรีเมียร์ลีกทีมเล็กๆอย่างวิมเบิลดันก็ถูกบีบให้ต้องโตเหมือนทีมอื่นๆจนนำไปสู่การเข้ามาถือหุ้นของกลุ่มทุนนอร์เวย์ที่นำโดยบียอร์น รูเน่ เกลสเตน กับ คเยล อิงเก้ ร็อกเก้
สิ่งที่ตามมาคือนักเตะนอร์เวย์ถูกเติมเข้าสู่ทีมแบบต่อเนื่องและสไตล์การเล่นไดเรกต์ ฟุตบอลและความดิบเถื่อนค่อยๆหายไป และในที่สุดในช่วงซัมเมอร์ปี 1999 วิมเบิลกดันก็แต่งตั้งเอกิล โอลเซ่นอดีตกุนซือทีมชาตินอร์เวย์ไปเตะพาทีมไปเตะฟุตบอลโลกมาแล้วถึงสองสมัยเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ แล้วถึงแม้กุนซือชาวนอร์เวย์จะประเดิมสวยด้วยการชนะวัตฟอร์ดในเกมเปิฤดูกาล ทว่าหลังจากนั้นอีก 9 เกมวิมเบิลกดันก็ไม่ชนะใครอีกเลยพร้อมกับอันดับที่ต่ำเตี้ยลงเรื่อยๆ
วิมเบิลดันที่ยอมรับว่าเดินหมากพลาดสั่งปลดโอลเซ่นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2000 ซึ่งในเวลานั้นพวกเค้ายังพอเหลือโอกาสรอดกับโปรแกรมแข่งขันอีก 2 นัดทว่าน่าเสียดายที่เกมสุดท้ายพวกเค้าแพ้เซาแธมป์ตัน 0-2 ในขณะที่แบร็ดฟอร์ดทะลึ่งไปชนะลิเวอร์พูล 1-0 ส่งผลให้วิมเบิลดันตกชั้นอย่างเป็นทางการแล้วยังไม่เคยได้หวนคืนพรีเมียร์ลีกอีกเลย ส่วนโอลเซ่นเองก็เข็ดขยาดหันไปรับงานคุมทีมชาติอย่างเดียวและไม่เคยมารับงานในระดับสโมสรอีกเลยเช่นกัน