อาร์แจ็ก อัมสเตอร์ดัม เป็นหนึ่งสโมสรที่คุ้นเคยสำหรับแฟนบอล เพราะนี่คือสโมสรที่เคยคว้าแชมป์ถ้วยหูใหญ่ของยุโรปมาแล้วถึง4สมัย
อาร์แจ็ก อัมสเตอร์ดัมยังถูกประทับตราว่าเป็นสโมสรที่มักจะผลักดันนักเตะฝีเท้าดีขึ้นมาวาดลวยลายในวงการลูกหนังโลกชนิดไม่เคยขาดสาย ยกตัวอย่างเช่น สตีเว่น พีนาร์,ยารี่ ริตมาเน่น,แม็กเวลล์,สลาตัน อิบราฮิโมวิช หรือมาสไตล์ เดอ ลิกต์ แต่วันนี้เราจะย้อนกลับไปบอกเล่าวีรกรรมครั้งสุดท้ายที่พวกเค้าก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อปี1995
อาร์แจ็ก อัมสเตอร์ดัม นั้นอาจจะเคยครองความยิ่งใหญ่ในระดับสโมสรยุโรปเมื่อช่วงปี 70 โดยมีสตาร์อย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นตัวชูโรง แต่ทว่าหลังจากหมดยุคของเทวดาลูกหนังไปอาร์แจ็กก็ค่อยๆตกต่ำลง กระทั่งเข้าสู่ยุค 90 ที่ได้ผู้จัดการทีมอย่าง หลุยส์ ฟาล กัลป์ มาทำทีม
ในเวลานั้นเอซีมิลานคือทีมยักษ์ใหญ่ที่เข้าชิงยูซีแอลได้อยู่เสมอ แต่แล้วในฤดูกาล 1994/95 อาร์แจ็กก็ผงาดขึ้นมาลูบคมปีศาจแดงดำได้สำเร็จ ในปีนั้นทีมดังแดนกังหันเต็มไปด้วยผู้เล่นดัตซ์สายเลือดใหม่อย่างเอ็ดวินฟาน เดอ ซาร์ ,คราเรน ซีดอฟ ,เอ็ดการ์ ดาวิด ,แพทริค ไคลเวิร์ต ,มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ,แฟรงค์ เดอบัวร์ ,โรนัล เดอบัวร์ และ มิเชล ไรซีเกอร์
ในวันที่ 24 พฤษภาคมปี 1995 อาร์แจ็ก อัมสเตอร์ดัม ก็ต้องแย่งแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับ เอซี มิลาน แล้ว ฟาลกัล ก็พาทีมเอาชนะมาได้ 1-0 จากประตูชัยของ แพคทริค ไคลเวิร์ต จากชัยชนะครั้งนั้นทำให้นักเตะในทีมแยกย้ายกันไปสร้างชื่อกับสโมสรอื่นๆในยุโรปอีกมากมาย อาทิ เอ็นวานโก้ คานู(อาร์เซนอล) ,แพทริค ไคลเวิร์ต(บาเซโลน่า) ,เอ็ดการ์ ดาวิด(ยูเวนตุส) ,เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์(แมนยูฯ) ,ยารี่ ริตมาเน่น(ลิเวอร์พูล) และคราเรน ซีดอฟ(รีล มาดริด) ด้วยความที่อาร์แจ็กมักจะขายนักเตะชั้นดีเพื่อแลกเงินก้อนโตอยู่เสมอก็ทำให้หลังจากนั้นพวกเค้าก็ไม่เคยกลับมาประสบความสำเร็จในเวทียุโรปได้อีกเลย
เขียนโดย DT-1
cr. = UEFA