แม้ทีมชาติโบลิเวีย จะมีชื่อชั้นเป็นรองชาติอื่นๆในโซนอเมริกาใต้ ด้วยกันอย่าง อาร์เจนติน่า ,บราซิล ,อุรุกวัย และโคลัมเบีย แต่ทว่าครั้งหนึ่งพวกเค้าก็เคยมีช่วงยุคทอง จนถึงขนาดลบเหลี่ยมอุรุกวัย คว้าตั๋วไปเตะฟุตบอลโลก นั่นก็เพราะในเวลานั้นพวกเค้ามีจอมทัพคนสำคัญอย่าง มาร์โก้ เอเชอร์วี่ นักเตะที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเบอร์ 10 ตลอดกาลของทีมชาติโบลิเวีย
ในวันที่ 26 กันยายน 1970 มาร์โก้ อันโตนิโอ เอเชอร์วี่ วากาส ได้ถือกำเนิดขึ้น ณ ประเทศโบลิเวีย แล้ว เอเชอร์วี่ ก็ฉายแววการเป็นยอดนักเตะจนได้ประเดิมเล่นฟุตบอลอาชีพกับเดสทรอยเยอร์(ทีมในลีกโบลิเวีย)ด้วยวัยเพียง 16 ปี เท่านั้น โดย เอเชอร์วี่ เริ่มเล่นในตำแหน่งกองหน้า แต่ทว่ากลับฉายแววเด่นกว่าเมื่อถอยมายืนเป็นเพลเมกเกอร์ แล้วในปี 1991 เค้าก็ได้ย้ายไปเล่นในแผ่นดินยุโรปกับ อัลบาเซเต้ ในสเปน แม้ว่าจะไม่อาจแจ้งเกิดในแดนกระทิงได้ แต่ฝีเท้าของ เอเชอร์วี่ ก็ยังคงได้รับการยอมรับสำหรับวงการฟุตบอลอเมริกาได้ จนทำให้สโมสรโคโลโคโล่ ในชิลีดึงตัวเค้าไปใช้งานต่อในช่วงปี 1992-1994 ซึ่งถือเป็นช่วงพีกสุดในอาชีพการเป็นนักฟุตบอลของเค้าเลยก็ว่าได้
เมื่อ เอเชอร์วี่ พาทีมชาติโบลิเวียหักปากกาเซียนด้วยการเอาชนะทีมชาติบราซิล ในการเตะเกมฟุตบอลโลก 1994 รอบคัดเลือกไป 2-0 โดยตัวเค้าเองก็มีชื่อทำประตูในเกมดังกล่าวด้วย ซึ่งมันเป็นแต้มสำคัญที่ทำให้โบลิเวีย เบียดชาติยักษ์ใหญ่อย่างอุรุกวัย ไปเล่นฟุตบอลโลกอย่างหน้าตาเฉย แม้ว่าเอาเข้าจริงพวกเค้าจะตกรอบแรกฟุตบอลโลก 1994 อย่างไม่ได้ลุ้นเลยก็ตาม
แต่ถึงกระนั้นรัศมีฝีเท้าของ มาร์โก้ เอเชอร์วี่ ก็ยังคงแจ่มจรัสจนทำให้เค้าถูก ดีซี ยูไนเต็ด ทีมในเมเจอร์ลีก ดึงตัวไปร่วมทีม แล้วเค้าก็ลงเล่นในเมืองลุงแซมไปถึง 190 นัดซัดไป 34 ประตู พาทีมคว้าแชมป์บอลถ้วยได้ถึง 3 สมัย ก่อนจะตัดสินใจย้ายกลับมาแขวนเกือกกับโบลิวาร์ สโมสรในบ้านเกิดในปี 2004 ด้วยวัย 34 ปี แล้วถึงแม้ เอเชอร์วี่ จะรับใช้ชาติไปเพียง 71 นัดยิงได้ 13 ประตู ไม่ใช่นักเตะที่ติดทีมชาติสูงสุด และดาวยิงสูงสุด แต่ทว่าในสายตาแฟนบอลโบลิเวีย แล้วเค้าก็ยังคงเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลเสมอมา
เขียนโดย DT-1