ชีวิตนักฟุตบอลนั้นมีจังหวะขึ้นลงอยู่ตลอด เพราะการลงสนามแต่ละครั้งมันลงสนามได้เพียง 11 คน มันจึงทำให้นักเตะที่ไม่ถูกเลือกลงสนามก็มักต้องหาทางขยับขยายเพื่อหาโอกาสลงสนาม แม้บางครั้งมันจะเป็นการจำใจอำลาจากทีมอันเป็นที่รัก แล้วนั่นก็คือชะตากรรมของแบ็คขวาคนนี้ มาร์ติน เคลลี่
ลิเวอร์พูล ถือเป็นหนึ่งในสโมสรที่สนับสนุนแข้งเยาวชนขึ้นมาประดับทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่เริ่มมีการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ไล่เรียงตั้งแต่ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ,เจมี่ คาราเกอร์ ,ไมเคิล โอเว่น ,สตีเฟ่น เจอราร์ด ,ราฮีม สเตอริ่ง และเทรนด์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนล แต่ทว่าก็มีดาวรุ่งของหงส์จำนวนไม่น้อยที่แจ้งเกิดไม่สำเร็จ และต้องระหกระเหินออกจากทีมไป โดยมี มาร์ติน เคลลี่ เป็นหนึ่งในนั้น ทั้งที่เค้าได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอะคาเดมี่ตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ และได้ถูกดันขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2007 ภายใต้การทำทีมของ ราฟา เบนิเตซ โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง เจย์ สเปียริ่ง ,สตีเฟ่น ดาบี้, ดาเนี่ยล ปาเชโก้ และ ดาเนี่ยล อยาล่า
ด้วยความที่ในทีมยังคงมีพี่ใหญ่อย่าง เกล็น จอนห์สัน ที่มีดีกรีเป็นแบ็คขวาทีมชาติอังกฤษ ก็ทำให้ เคลลี่ ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนัก กระทั่ง เคนนี่ เดลกิช เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีมในช่วงปี 2010 เคลลี่ จึงได้รับโอกาสกับเค้าบ้าง แม้มันจะไม่ถึงขนาดได้ยึดตำแหน่งตัวจริง แต่นั้นก็ยังดีพอที่จะทำให้ เคลลี่ มีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ในปี 2012 แต่ต่อมาเมื่อ แบรนดอน รอดเจอร์ส เข้ามาทำงานแทนในปี 2012 มาร์ติน เคลลี่ ก็ต้องกลับไปจับเจ่าที่ข้างสนามอีกครั้ง
ทำให้หลังจากรับใช้ ลิเวอร์พูล ไปทั้งสิ้น 62 เกม มาร์ติน เคลลี่ ก็จำใจต้องย้ายซบ คริสตัล พาเลซ ในวันที่ 14 สิงหาคม 2014 ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ กับทีมปราสาทเรือนแก้ว เคลลี่ ถึงได้รับโอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกกับเค้าเสียที โดยในปีแรกที่ย้ายมาเค้าลงสนามไปถึง 34 นัดรวมทุกรายการ และยังเป็นกำลังสำคัญทื่ทีมเข้าชิงถ้วยเอฟเอคัพในฤดูกาล 2015/16 อีกด้วย แม้ว่าสุดท้ายจะได้แค่ตำแหน่งรองแชมป์ก็ตาม โดยนับถึงเวลานี้ มาร์ติน เคลลี่ ก็รับใช้ คริสตัล พาเลซ มาแล้วถึง 6 ปี ลงสนามให้ทีมไปแล้วกว่า 145 เกม
เขียนโดย DT-1
