ลีโอเนล เมสซี่ กัปตัน อาร์เจนติน่า ยืนยันไม่มีเจตนาแย่งเครดิตประตูของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ในจังหวะสะกิดเปลี่ยนทางลูกยิงปิดกล่องคว้าชัยชนะเหนือ แคนาดา 2-0 ใน โกปา อเมริกา รอบรองชนะเลิศ
นัดกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ฮูเลียน อัลวาเรซ เบิกสกอร์ให้ “ฟ้าขาว” ออกนำครึ่งแรก แล้วต้นครึ่งหลัง เอ็นโซ่ มิดฟิลด์สังกัด เชลซี เติมยิงแถวเส้นเขตโทษวีถีตรงกรอบ แต่เครดิตเป็นของ เมสซี่ ผู้สัมผ้สบอลคนสุดท้าย
นอกจากช่วยทีมของ ลีโอเนล สกาโลนี่ เข้าไปป้องกันแชมป์ทวีป ลีโอเนล เมสซี่ ยังแซง อาลี ดาอี ตำนานอิหร่านขึ้นอันดับ 2 ดาวซัลโวตลอดกาลระดับทีมชาติ ด้วยจำนวน 109 ประตู เป็นรองแค่ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ของ โปรตุเกส (130 ประตู)
“ผมบอกกับ เอ็นโซ่ ไปแล้วว่าผมไม่ได้ตั้งใจแย่งประตูไปจากเขา” ลีโอเนล เมสซี่ สัมภาษณ์ชี้แจงหลังรับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมทช์ จากผู้จัดในเกมดังกล่าว
“ผมเห็นผู้รักษาประตูคู่แข่งนอนขวางอยู่ ขณะที่บอลกำลังเข้ามาอย่างเชื่องช้า และผมแค่สะกิดเปลี่ยนทิศทางเล็กน้อย”
“มันเป็น โกปา อเมริกา ที่ยากลำบากสำหรับเรา ทั้งเรื่องสภาพสนามที่ย่ำแย่, สภาพอากาศอุณหภูมิสูง และทีมต่างๆ ล้วนแข็งแกร่ง ดังนั้นการได้เข้าสู่รอบชิงอีกครั้งทำให้ผมมีความสุข”
หากสุดสัปดาห์นี้ อาร์เจนติน่า คว้าชัยในนัดชิงเหนือ โคลอมเบีย จะทำให้พวกเขาชูถ้วยแชมป์ 3 รายการใหญ่ติดต่อกัน แต่ เมสซี่ ยืนยันไม่มีความคิดที่จะหยุดรับใช้ชาติ: “อย่างที่เคยบอก คือผมต้องการไปต่อ ผมแค่ใช้ชีวิตไปทีละวันโดยไม่ได้คิดเรื่องอนาคต มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าผมจะหยุดเล่นตอนไหน”
อย่างไรก็ตาม ตัวเก๋าอีกราย ยืนยันการอำลาคือ อังเกล ดิ มาเรีย และ ลีโอเนล เมสซี่ ส่งข้อความถึงเพื่อนร่วมทีมวัย 36: “เรามีความสุขที่ ดิ มาเรีย อยู่ในทีม เขาทุ่มเททุกอย่างอยู่เสมอ และสมควรได้รีไทร์อย่างยิ่งใหญ่ในนัดชิง”