ลา ลีกา บินตรง ให้ความรู้ด้านแผนการตลาดแก่สโมสรในไทยลีก 1 และไทยลีก 2

โดย มร. อิคนาซิโอ มาร์ติเนซ ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ สโมสร เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ได้กล่าวถึงการพัฒนาฟุตบอลไทยสู่ความเป็นเลิศในระดับเอเชียว่า

“เมื่อก่อน ผมยังไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับฟุตบอลไทยมากนัก หลังจากที่มีคณะผู้บริหารใหม่เข้ามาผลักดันและวางระบบให้ไทยลีกแข็งแกร่งขึ้น ทำให้ผมได้รับข้อมูลจากประเทศไทยมากขึ้น ผมคิดว่าฟุตบอลไทยมีฐานแฟนบอลที่แข็งแกร่ง สโมสรพยายามพัฒนาฟุตบอลให้สูงและมีศักยภาพมากขึ้น”

“ส่วนการที่ทำให้ไทยลีกก้าวไปสู่ระบบเอเชียต้องได้รับการช่วยเหลือจากที่ลีกที่พัฒนาแล้ว อย่างเช่นตอนนี้ทางลา ลีกา ได้เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องระบบให้ดีขึ้น เพื่อวางรากฐาน อย่างในสเปนเรามีทรัพยากรที่มากมาย ทั้งคนสเปนและชาวอเมริกาใต้ที่พูดภาษาเดียวกันมาช่วยพัฒนาลีก ประเทศไทยต้องมีทรัพยากรที่เป็นชาวเอเชียที่มีลีกฟุตบอลในประเทศที่แข็งแกร่งเข้ามาช่วยเสริมสร้างนักกีฬา และวางระบบให้แข็งแกร่ง รวมทั้งต้องมีการวางแผนการตลาดที่แข็งแกร่งด้วย”

“ในหลักการที่สองคือการทำให้สโมสรเป็นมากกว่าสโมสรฟุตบอล ในลักษณะของธุรกิจ ผลตอบรับ การทำงานต้องเป็นแบบบริษัท รวมทั้งมีการอ้างอิงจากคลับ ไลเซนซิง หลักการที่สาม คือ การวางแผนอคาเดมี ให้เด็กๆ หันมาสนใจฟุตบอลและพัฒนาเด็กจากตรงนั้น ต้องเปิดโอกาสให้เด็กได้มีเวทีแข่งขัน สโมสรควรมีทีมที่เป็นพันธมิตรในลีกอื่นๆ เพื่อส่งเด็กไปแลกเปลี่ยน แล้วนำมาต่อยอดในอนาคต”

ขณะที่ มร. คาร์ลอส อารานซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพาณิชย์ สโมสรเรอัล ซาราโกซา กล่าวว่า “ลา ลีกา มีความเป็นมาอย่างยาวนาน และมีประสบการณ์ที่แข็งแกร่ง แต่ฟุตบอลไทยลีก ยังอยู่ในช่วงการพัฒนา ดังนั้นแต่ละสโมสรควรมีทีมพันธมิตรในต่างประเทศ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ รวมทั้งส่งเสริมนักเตะไทยไปแลกเปลี่ยนกับสโมสรเหล่านั้น”

“ส่วนนักเตะไทยนั้นมีโอกาสอยู่แล้วที่จะได้เดินทางไปเล่นทั้งในลา ลีกาและลีกรองของประเทศสเปน เพราะลาลีกา ไม่ได้เน้นเรื่องกายภาพมากนัก และจะเน้นเรื่องเทคนิคเป็นหลัก ซึ่งนักเตะไทยมีทักษะฟุตบอลที่ดีอยู่แล้ว แต่ว่าต้องผลักดันนักเตะตั้งแต่ระดับเยาวชน”

สำหรับการสัมมนาเชิงปฏิบัติการออกใบอนุญาตสโมสร (คลับไลเซนซิ่ง) ในไทยลีก 1 และไทยลีก 2 จะมีจนถึงวันที่ 10 เมษายน 2561

Photo  :Fair