มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้อธิบายถึงสิ่งที่คาดหวังจากการลงเตะนัดกระชับมิตรระดับ FIFA International ‘A’ Match กับ ฮ่องกง และ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนตุลาคม
โดยพลพรรค “ช้างศึก” มีคิวออกไปเยือน ฮ่องกง วันที่ 11 ตุลาคม ก่อนจะกลับมายังเมืองไทย เพื่อลงเตะกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ณ สนามกีฬากลาง จังหวัดสุพรรณบุรี วันที่ 14 ตุลาคม
ซึ่งกุนซือชาวเซิร์บกล่าวว่า “มันคือส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวสำหรับซูซูกิคัพ ซึ่งถือเป็นรายการแข่งขันที่สำคัญรายการแรกของเรา ซึ่ง 2 แมตช์นั้นเราจะมีการลองนักเตะบางคน เพื่อให้โอกาสพวกเขาได้พิสูจน์ตัวเอง และลองจะตั้งทีมสำหรับซูซูกิคัพขึ้นมา แน่นอนว่าผลการแข่งขันสำคัญกับเรา และเราก็พยายามจะสร้างผลการแข่งขันที่ดีในแมตช์เหล่านั้น”
“สำหรับเกมกับฮ่องกงนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเล่นนอกบ้านบ้าง เพราะเราต้องเป็นทีมเยือนในบางแมตช์ของซูซูกิคัพ จึงได้พยายามสร้างทีมที่สามารถเล่นในแนวทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเล่นในบ้านหรือนอกบ้าน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีเกมอุ่นเครื่องอย่างน้อย 1 เกมนอกบ้าน เพื่อให้มีสภาพจิตใจที่พร้อมสำหรับการเล่นในแมตช์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
“สำหรับการเตรียมทีมตอนนี้ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเรา เราได้พูดคุยกับสมาคมฯ และสมาคมฯ ก็สนับสนุนเราเต็มที่ เราพยายามหาที่พักที่ดีที่สุดสำหรับนักเตะ เช่นเดียวกับสนามซ้อม ทุกอย่างกำลังไปได้สวย เราคิดล่วงหน้าก่อนเสมอ ดังนั้นในตอนนี้ จึงเป็นการเตรียมพร้อมทุกอย่างสำหรับทุกรายการแข่งขัน ทั้งเกมกระชับมิตร, ซูซูกิคัพ และเอเชียนคัพ สมาคมฯ ให้การสนับสนุนเราดีมาก เราต่างเห็นพ้องต้องกันว่าจะทำอะไร วางแผนอย่างไร ทุกอย่างไปได้สวย”
“เราพยายามไปดูเกมที่สนามต่างๆ เท่าที่จะทำได้ และยังชมเกมผ่านทางทีวี สำหรับเราแล้ว มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดูฟอร์มนักเตะ ทั้งที่ติดทีมชาติไปแล้ว รวมถึงหน้าใหม่ 4-5 คนที่เล่นดีในช่วงนี้”
“มันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดูฟอร์มของนักเตะ เพราะบางครั้งก็มีการเปลี่ยนแปลง พวกเขาอาจจะฟอร์มขึ้นหรือลงก็ได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจับตาดูทุกอย่าง เพือให้เห็นว่าพวกเขาตอบสนองอย่างไร เล่นในช่วงนี้เป็นอย่างไร ก่อนจะตัดสินใจขั้นสุดท้าย ว่าจะเชิญพวกเขาไปเก็บตัวครั้งหน้าหรือไม่”
“สำหรับทีมคู่แข่งที่ต้องเจอ เราได้สเกาท์ทุกทีม เราต้องมีการเตรียมตัว แน่นอนว่า เราได้ดูแมตช์ของอินเดียด้วยเช่นกัน ถ้าเราสามารถไปที่นั่นได้ และบางครั้งเราก็ดูจากทีวี บางครั้งเราก็ใช้โปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลด เพื่อวิเคราะห์สไตล์การเล่นของเขา ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้ว เราสเกาท์และประเมินทีมคู่แข่งเสมอ ขณะเดียวกันเราก็ต้องเซ็ตสไตล์การเล่นของตัวเอง ไม่เล่นตามคู่ต่อสู้ เราต้องการเล่นตามสไตล์ของตัวเอง และคว้าผลการแข่งขันด้วยการเล่นของตัวเอง”
“ซึ่งในรายการซูซูกิคัพ แน่นอนว่าทุกทีมมีแรงจูงใจ และต่างก็พัฒนาตัวเองขึ้นมา เราต้องเคารพคู่ต่อสู้ เรารู้ว่าเรามีคุณภาพ ดังนั้นเราต้องทำผลงานให้ดี ถ้าอยากชนะในทุกเกม เราต้องทำให้ดีที่สุดในการเตรียมความพร้อม เพือจะได้ทำผลงานให้ดี”
“ทุกๆทีมพยายามจะใช้โอกาสตัวเองในการคว้าผลการแข่งขันที่ดี แน่นอนว่าเราต้องมีความเชื่อมั่นในฝีเท้าของเรา และมองในแง่ดีกับโอกาสของตัวเอง”
“ส่วนใน เอเชียนคัพ แน่นอนว่า เป็นรายการสำคัญที่สุดสำหรับไทย และนี่เป็นโอกาสที่จะสร้างชื่อ เราอยากเข้ารอบให้ลึกที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ทุกทีมมีคุณภาพ เรารู้จักพวกเขา และเคารพพวกเขา แต่เราก็รู้ว่าเราก็มีโอกาส”
“ในเอเชียนคัพ เราจะได้นักเตะแบบฟูลทีม เพราะผู้เล่นที่ค้าแข้งต่างประเทศ ทั้งในญี่ปุ่นและเบลเยี่ยม จะอยู่กับเราด้วย เพื่อทำให้แน่ใจว่า เราจะสามารถสร้างความประทับใจได้อย่างดีที่สุด”
“แน่นอนว่าเราพยายามจะเล่นเพื่อผลการแข่งขันที่ดี และหวังว่าเราจะได้ผลลัพธ์ในแง่บวกในรายการนี้ เพื่อที่จะเข้ารอบต่อไป”
“หวังว่าเราจะได้นักเตะครบทีม สำหรับนักเตะบางคนที่เพิ่งหายเจ็บ ก็หวังว่าจะฟิตสมบูรณ์สำหรับรายการนี้ เพื่อที่ว่าเราจะสามารถพึ่งพาพวกเขา และเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ด้วยฟอร์มที่ดีที่สุด”
“สำหรับในรายการนี้ แน่นอนว่าเราอยากได้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องร่วมใจกันตั้งแต่สมาคมฯ ทีมเทคนิค จนถึงนักเตะ เราต้องการแรงสนับสนุนจากแฟนๆ และสื่อมวลชน ถ้าเราร่วมแรงร่วมใจ และสนับสนุนซึ่งกันและกัน ก็มีโอกาสสูงที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกลับมา”
“เอเชียนคัพ ถือเป็นรายการแข่งขันที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และนี่คือเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องไปสร้างผลงานที่นั่น เพราะทุกคนจะรู้จักคุณจากทัวร์นาเมนต์นี้ โลกฟุตบอลต่างจับจ้องมายังรายการนี้ เราต้องการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ทีมชาติไทยสามารถสร้างชื่อและมีผลงานที่ดีได้ เพื่อที่ผู้คนจะสามารถพูดถึงทีมชาติไทยในแง่บวก”
โดยทีมชาติไทย มีโปรแกรมลงป้องกันแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2561 ก่อนจะทำศึกเอเชียนคัพ ในเดือนมกราคม 2562
ขอขอบคุณ : ฟุตบอลทีมชาติไทย