ข่าวฟุตบอลยูสซุฟ เอ็น-เนซีรี่ : นักเตะที่เคยถูกลิเวอร์พูลและแมนยูฯแย่งตัว สู่ ผู้ทำประตูชัยให้โมร็อกโกเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก
buaksib sport news
ยูสซุฟ เอ็น-เนซีรี่
ยูสซุฟ เอ็น-เนซีรี่ : นักเตะที่เคยถูกลิเวอร์พูลและแมนยูฯแย่งตัว สู่ ผู้ทำประตูชัยให้โมร็อกโก เข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ของทีมจากทวีปแอฟริกา

ยูสซุฟ เอ็น-เนซีรี่ เป็นผู้ได้รับรางวัล นักเตะยอดเยี่ยมของลาลีกา ในเดือนมกราคม 2021 หลังจากที่เขาทำแฮตทริกได้ 2 ครั้งในลีกสเปน 

ย้อนกลับไปช่วงต้นปี 2021 สื่อในสเปน Estadio Deportivo รายงานว่า “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สองสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังให้ความสนใจคว้าตัว ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี กองหน้าทีมชาติโมร็อกโกของ เซบีญา สโมสรแกร่งในศึก ลา ลีกา สเปน มาเสริมแนวรุกในช่วงซัมเมอร์

ซึ่งช่วงนั้น ยูสซุฟ เอ็น-เนซีรี่ วัย 23 ปี กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงให้กับ เซบีญา และตามรายงานจากสื่อแดนกระทิงดุระบุว่า นอกจาก ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจ ยังมีคู่แข่งอย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่กำลังจับตามองแข้งรายนี้อย่างใกล้ชิดเช่นกัน แต่สุดท้ายดีลกันไม่จบ เนื่องจาก เซบีญา ตั้งค่าฉีกสัญญาสูงถึง 52 ล้านปอนด์

ขณะที่ในปลายปีเดียวกันนั้น อาร์เซนอล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ยังสนใจที่จะคว้าตัว ยูสซุฟ เอ็น-เนซีรี่ ด้วยเช่นกัน โดยใช้เงื่อนไขให้ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ หัวหอกเลือดน้ำหอม มัดรวมเป็นส่วนหนึ่งในข้อเสนอขอซื้อตัว ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี มาเสริมคม ตามรายงานจาก เดลี เมล์ สื่อเมืองผู้ดี แต่ก็เช่นเคย ดีลกันไม่จบ เนื่องจาก เซบีญา ไม่ยอมรับในข้อเสนอนี้ 

ปัจจุบัน กองหน้ารายนี้เล่นให้กับเซบีย่าไปแล้ว 89 นัด ยิงได้ 27 ประตู และยังคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ในฤดูกาล 2019/20 มาครองได้อีกด้วย

ก่อนที่ล่าสุด ยูสซุฟ เอ็น-เนซีรี่ จะเป็นผู้ทำประตูชัยให้ โมร็อกโกพลิกชนะโปรตุเกส 1-0 เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ของทีมจากทวีปแอฟริกา ด้วยลูกกระโดดโหม่งที่สูงในระดับ 2.78 เมตร จนโดนสื่อต่างๆนำมาเป็นประเด็นว่า กระโดดได้สูงกว่าโรนัลโด้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม โรนัลโด เคยสร้างสถิติสูงสุดของเขาได้ เมื่อกระโดดได้ถึง 2.93 เมตร ในเกมการแข่งขันระหว่าง เรอัล มาดริด พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวทีลีกยุโรปเมื่อปี 2013-2012 ตามรายงานของ Goal.com

หลังจบเกมพลิกล็อคชนะโปรตุเกส วาลิด เรกรากุย กุนซือทีมชาติโมร็อกโก ที่เพิ่งมารับตำแหน่งได้แค่ 81 วันก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ เปิดเผยว่า “ชัยชนะในเกมนี้ไม่ใช่ปาฏิหาริย์แต่อย่างใด จากการเสียประตูเดียวทั้งทัวร์นาเมนต์ พร้อมทั้งเอาชนะ 3 ทีมจากยุโรปทั้ง เบลเยียม, สเปน และโปรตุเกส แบบคลีนชีต คือเครื่องทดสอบชั้นดีว่าทีมดีพอจะเป็นแชมป์โลกหรือไม่”

“เราเป็นทีมที่ทุกคนรักในฟุตบอลโลกครั้งนี้ เพราะเราแสดงให้โลกเห็นว่าคุณสามารถประสบความสำเร็จได้ แม้ว่าคุณจะไม่มีพรสวรรค์และเงินมากมายก็ตาม มันไม่ใช่ปาฏิหาริย์ พวกคุณหลายคนจะบอกว่าเป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะในยุโรป แต่เราเอาชนะเบลเยียม สเปน และโปรตุเกส โดยไม่เสียประตู”

“เราทำให้ผู้คนและทวีปของเราภาคภูมิใจ เมื่อคุณดูร็อกกี้ คุณต้องการสนับสนุน ร็อคกี้ บัลโบ งั้นพวกเราคือ “ร็อคกี้แห่งฟุตบอลโลก”

ขณะเดียวกัน ยาสซีน บูนู นายทวารโมร็อกโก ที่เสียไปแค่ประตูเดียวจาก 5 นัด หลังจบเกมเจ้าตัวยังได้ถูกเลือกให้เป็น แมนออฟเดอะแมตช์ อีกครั้ง หลังได้มาแล้วในเกมชนะสเปน ในรอบ 16 ทีม แต่ครั้งนี้เจ้าตัวเลือกจะทำสิ่งที่พิเศษเล็กน้อยคือ เขาได้เลือกส่งต่อโทรฟี่ แมนออฟเดอะแมตช์ ให้ ยูสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ เพื่อนร่วมทีมผู้ยิงประตูชัยในเกมนี้ได้ เพื่อส่งต่อกำลังใจให้กันและกัน หลังจากที่ฝ่าฟันกัน จนมาถึงรอบรองชนะเลิศได้ 

สำหรับ โปรแกรมในรอบรองชนะเลิศ ทีมชาติโมร็อกโก จะพบกับ ทีมชาติฝรั่งเศส ในคืนวันที่ 14 ธันวาคม เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)  

ไม่ว่าทัพสิงโตแห่งแอตลาสจะไปถึงแชมป์โลกได้ตามคำพูดของเฮดโค้ชหรือไม่ แต่นาทีนี้พวกเขาได้ครองใจแฟนบอลจากทั่วโลกไปแล้วเรียบร้อย รวมถึงตัว ยูสซุฟ เอ็น-เนซีรี่ ขนาดตอนที่ยังไม่โชว์ฟอร์มเด่นในฟุตบอลโลก ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ยังจีบกันขนาดนั้น หลังจบฟุตบอลโลก คงมีทีมจากทั่วโลกติดต่อ เซบีญา มากันแบบ “หัวกระไดบ้านไม่แห้งอย่างแน่นอน”

buaksib sport newsbuaksib sport news