บอลโลกยกเครื่องใหม่ บิ๊กป๋อม นำทีมประชุมวางแผนยุทธศาสตร์ฟุตซอลไทย
ฟุตซอลไทย
ฟุตซอลไทย

เมื่อวันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ.2561 เวลา 14.00 น. ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ชั้น 16 การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ได้มีการจัดการประชุมคณะกรรมการพัฒนาเทคนิคฟุตซอลไทย ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ.2561 เพื่อวิเคราะห์ประเมินผลงานฟุตซอลไทยในปีที่ผ่านมา รวมถึงการวางแผนยุทธศาสตร์ วัตถุประสงค์ แนวทาง และเป้าหมายเพื่ออนาคต

การประชุมหารือในครั้งนี้มีทางด้านช”บิ๊กป๋อม”อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนา ฟุตซอลไทย , โฆเซ มาเรีย ปาซอส เมนเดซ “ปูลปิส” กุนซือทีมชาติไทย , “โค้ชดม” อุดม ทวีสุข เฮดโค้ชทีมฟุตซอลหญิงทีมชาติไทย และการท่าเรือ ฟุตซอลคลับ รวมไปถึง มร.โมฮัมเหม็ด อิคบาล มาริคา รองประธานฯ , มร.โฆเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส “ปูลปิส”
, พัทยา เปี่ยมคุ้ม , สุรพงษ์ พลายอยู่วงษ์ , วิศาล ไหมวิจิตร , สมบัติ ปานสมุทร , สุชิน เอี่ยมฉลาด , วรงค์ ทิวทัศน์ รวมถึง นางสาวอินทิรา ยั่งยืน

“บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลไทย เผยถึงแนวทางการประชุมในครั้งนี้ว่า “ทีมชาติไทยประสบความสำเร็จจากผู้เล่นกลุ่มนี้ที่ถูกสร้างและพัฒนาขึ้นมากว่า 10 ปีที่ผ่านมา อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง จากการเป็นรองแชมป์เอเชีย ในปี 2012 และเข้ารอบ 16 ทีม ในการแข่งขันฟุตซอลโลก ในปี 2012 และ 2016 และในระดับสโมสรเป็นแชมป์เอเชียในปี 2013 และ 2017, การพัฒนาผู้เล่นชุดยู-21 ขาดความต่อเนื่องหลายปี (2012-2016) ทำให้การพัฒนารุ่นต่อรุ่น โอกาสและประสบการณ์ของผู้เล่นใหม่ๆในเวทีนานาชาติมีค่อนข้างจำกัดและเป็นไปโดยไม่ปะติดปะต่อในด้านการทดแทน การพัฒนาผู้เล่นชุดยู-20 เริ่มกลับมาอีกครั้งในปี 2017 ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาเสริมสร้าง 2-3 ปี ที่จะก้าวมาเป็นกำลังหลักได้”

“การแข่งขันของทีมชาติไทยในแต่ละปฏิทินรอบปี ทั้งในระดับอาเซียนและเอเชีย มีจำนวนมาก กับการแข่งขันลีกภายในประเทศ รวมทั้งระดับสโมสรอาเซียนและเอเชีย ทำให้ผู้เล่นทีมชาติไทยมีภารกิจทั้งปี ไม่มีเวลาหยุดพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ ชาติต่างๆในเอเชียพัฒนาขึ้นหลายชาติมีการลงทุนในด้านผู้ฝึกสอน การเทรนนิ่ง พัฒนาการด้านเทคนิค รวมถึงการพัฒนาด้านการแข่งขันภายใน จะเห็นได้ว่าฟุตซอลยู-20 ชิงแชมป์เอเชียที่ผ่านมามีทีมชาติเข้าร่วมถึง 21 ทีม”

“รูปแบบและระบบการเล่นของทีมชาติไทยและสโมสรไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากใน 10 ปีที่ผ่านมา ได้ถูกวิเคราะห์ เจาะลึกจากชาติต่างๆในเอเชีย โดยตั้งแต่การแข่งชิงแชมป์อาเซียน ที่เวียดนาม เริ่มปรับใช้การเล่นระบบใหม่ แท็กติกใหม่ๆ แต่ยังไม่สมดุลลงตัว และรูปแบบการตัดสิน มีการปรับเปลี่ยนโดยสามารถให้มีการปะทะด้วยการใช้ร่างกาย ส่งผลถึงทีมที่เสียเปรียบด้านสรีระ จากเดิมที่นักเตะไทยมีรูปร่างเล็ก คล่องแคล่ว สามารถเรียกฟาวล์ได้ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนไป จึงต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งในด้านสมรรถภาพร่างกาย”

“จากข้อเท็จจริงดังกล่าว ฟุตซอลไทยจะต้องมียุทธศาสตร์ในระยะสั้น 2 ปี (ฟุตซอลโลก 2020) ระยะกลางและระยะยาวใน 6 ปี และ 10 ปี ข้างหน้า (ฟุตซอลโลก 2024 และ 2028) โดยบูรณาการในด้านการแข่งขันภายในลีกอาชีพ และการบริหารจัดการทีมชาติให้สอดคล้องและเอื้ออำนวยต่อความต่อเนื่องและความสำเร็จในการพัฒนาทีมชาติไทย โดยจะจะทำการจัดตั้ง “คณะกรรมการพัฒนาเทคนิคฟุตซอลทีมชาติไทย” (FUTSAL TECHNICAL COMMITTEE) มีวัตถุประสงค์ พัฒนาโครงสร้างและรูปแบบการเล่น ในทุกๆ องค์ประกอบให้เหมาะสมกับคุณลักษณะของผู้เล่นไทยและสอดคล้องกับพัฒนาการฟุตซอลทั่วโลก ในปัจจุบันและอนาคต วางระบบที่มีมาตรฐานเดียวกัน ถ่ายทอดสู่สโมสร ทุกสโมสรในลีกให้พัฒนาไปในทิศทางเดียวกันครอบคลุมทั้งการพัฒนาเยาวชนตามสถานศึกษาต่างๆ, นำเสนอและกำหนดแนวทางในการเสริมสร้างทีมชาติไทยชุดต่างๆ ทั้งชุด ยู-18, ยู-20, ยู-23 จนถึง ทีมชาติชุดใหญ่และทีมฟุตซอลหญิง รวมทั้งการจัดแยกชุดทีมเข้าร่วมการแข่งขันแต่ละรายการ และจัดทำยุทธศาสตร์ระยะสั้น กลาง และยาว เพื่อพัฒนาฟุตซอลไทยในอนาคตต่อไป”

ขอบคุณรูปภาพจาก : Futsal Thailand – ฟุตซอลไทยแลนด์