มิตติ ติยะไพรัช สวมบทพระเอกขี่ม้าขาวเป็นตัวแทนทุกสโมสร จี้ สมาคมฯ ให้ออกมาชี้แจงเรื่องงบสนับสนุนที่สโมสรจะได้รับ
มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ประกาศทวงเงิน พร้อมกดดันให้ สมาคมฯ ชี้แจงเรื่องงบสนับสนุน
ก่อนหน้านี้ ทางสมาคมฯ ได้มีการมอบเงินสนับสนุนไปแล้วหลายงวดแต่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องจำนวน รวมถึงงบในฤดูกาลหน้า
“สมาคมฟุตบอลไทย ความหวัง ความฝัน และโอกาสของคนไทยวันนี้ผมค่อนข้างลังเลว่าการเขียนบทความนี้จะทำให้หลายๆ ท่านที่อ่านแล้วจะกังวลและเข้าใจในตัวผมผิดไปหรือไม่ ซึ่งในบรรยากาศการประกาศตัวลงนายกสมาคมของคุณวรวีย์ หรือการยื่นคำขาดให้กับสโมสรสมาชิกต้องตกชั้นหรือเลื่อนชั้น โดยใช้มาตรฐาน AFC เป็นที่ตั้ง จะเป็นการตอกย้ำให้กับหัวข้อเหล่านี้หรือไม่” มิตติ โพสต์
“ผมเองไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีกับท่านนายกสมาคม ผู้บริหารสมาคม ประธานไทยลีก และเจ้าหน้าที่ของทั้งสมาคมฟุตบอลและบริษัทไทยลีกแต่อย่างใด ประเด็นของผมในวันนี้คือการทวงถามถึงเงินสนับสนุนซึ่งพวกเรายังได้รับไม่ครบจำนวน ซึ่งล่าสุดเราได้รับทราบจากทางนายกสมาคมว่าจะจ่ายเราทั้งหมด 10 ล้านบาท (จากยอดเต็มเดิม 20 ล้าน ประกาศลดเหลือ 14 จนครั้งล่าสุดตามที่หลายฝ่ายเข้าใจคือเหลือยอด 10 ล้าน) โดยเวลาที่ล่วงเลยไปสมาคมได้จ่ายให้พวกเราทั้งหมดแค่ประมาณ 5.75ล้านบาทเท่านั้น”
“หลายคนเบื่อหน่าย บ้างจำยอม ส่วนมากคือไม่กล้าออกหน้าทวงเงินเพราะอาจจะเกรงใจหรืออย่างไร แต่ผมเองยังยืนยันในหลักการเดิม “ถ้าฟุตบอลลีกแข็งเเกร่ง ทีมชาติไทยจะแข็งแกร่งตามไปด้วยที่ผมออกมาโพสต์ในวันนี้นั้น ขอเรียกร้องในหลักที่ว่าอย่างน้อยพวกเราต้องการทราบว่าเราจะได้เงินในช่วงใด ยอดเท่าไหร่ เพราะพวกเราจะได้วางแผนในการใช้งบประมาณได้ถูก เคลียร์ค่าใช้จ่ายที่ยังคงค้างจ่ายในปัจจุบันได้ถูกต้อง ลดระดับความเสียหายและความเดือดร้อนของนักบอลรวมไปถึงโครงสร้างทางธุรกิจของพวกเราได้”
“วันนี้สมาคมจ่ายเรามา 5.75 ล้านบาท แต่เรียกร้องและให้พวกเราปฏิบัติตามกฎและมาตรฐานของ เอเอฟซีอย่างเคร่งครัด ไม่ผิดครับที่เราต้องยกระดับมาตรฐานของลีกให้สูงขึ้น เพราะนั่นคือค่าสัมประสิทธิ์หลักที่จะทำให้สโมสรไทยได้ไปทำการแข่งขันในเวที แชมเปี้ยนส์ลีก ในจำนวนที่มากขึ้น ถ้าหลักคิดของผู้มีอำนาจในสมาคมมีเลนส์ที่มองว่า คนทำฟุตบอลต้องเป็นคนมีเงินเท่านั้น ทำฟุตบอลเพื่อชื่อเสียง ดังนั้นถ้าอยากจะลงแข่งต้องควักกระเป๋า หาเงินมาจ่ายเองให้ได้ ถ้าหลักคิดเป็นแบบนี้อันตราย พวกเราไม่มีทางรอด”
“เวลานี้สมาคมฟุตบอลไทย ทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ดูดีในสายตานานาชาติ แต่ไม่ยอมรับหรือยังไม่รู้สึกว่าลีกไทยกำลังอยู่ในช่วงวิกฤติ ผมขอยอมรับว่าเชียงรายอยู่ในช่วงกำลังปรับตัวจากวิกฤติโควิด เราพ้นระยะอันตรายมาแล้ว กำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว แล้วอีกหลายสิบทีมทั้งในลีกรองและดิวิชั่น 3 ล่ะครับ ส่วนมากยังไม่รู้ว่าปีหน้าจะทำอย่างไรต่อ งบเท่าไหร่ที่จะได้รับ แล้วเรื่องทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้นำไปสู่อะไรครับ ผมขอยกตัวอย่าง”
“1.นักกีฬา โค้ช สต้าฟ ไม่มีทีม ทำงานฟุตบอลอาชีพแบบปีต่อปี รายได้ไม่แน่นอน อนาคตวางแผนการเงินไม่ได้ ใครบาดเจ็บร้านแรงก็บอกลาอาชีพนักเตะใด้เลย นักบอลรุ่นใหม่มีเพิ่มขึ้นทุกปี 2.ทีมไม่สามารถเข้าสู่แหล่งทุนหรือวางแผนกู้ยืมเงินได้ เพราะไม่มีความชัดเจนถึงวันและเวลาที่จะได้รับเงิน 2.1 การพัฒนา facilities ให้ดีขึ้น ทำไม่ได้ 2.2การพัฒนาหรือต่อยอดให้กับเด็กๆ ในอคาเดมี่ ทำไม่ได้ ตัวอย่างเหล่านี้เป็นต้น”
“ในลีกต่างประเทศ ยกตัวอย่างลีกอังกฤษ หลักการที่สำคัญที่สุดคือให้ทุกทีมมีส่วนร่วมในการบริหาร ออกความคิดเห็น ตัดสินใจร่วมกันในเรื่องสำคัญๆ เช่นสิทธิประโยชน์ ทุกสโมสรมีหุ้นและมีตัวแทนในการเข้าร่วม นี่คือสิ่งที่ผมอยากผลักดันให้บริษัทไทยลีกได้เริ่มต้นดำเนินการอย่างเร่งด่วน ก่อนที่จะเขียนยาวผมขอสรุปและขอเรียกร้องต่อสมาคมดังนี้ 1.แจ้งสโมสรสมาชิกถึงช่วงเวลามอบเงินสนับสนุนงวดต่อไปอย่างชัดเจน 2.เพิ่มให้ทุกทีมได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในสิทธิที่พวกเขาพึงได้รับ นี่เป็นข้อเรียกร้องในระยะสั้นให้พวกเราได้ผ่านฤดูกาลนี้ที่จบไปแล้วให้ไม่มีปัญหาและลดความเสียหาย พร้อมทั้งให้ทุกทีมได้ช่วยกันออกไอเดียนำพาลีกของเราในฤดูกาลหน้าดำเนินไปได้อย่างราบรื่น”
“สมาคมฟุตบอลไทยต้องคงไว้ซึ่งความหวัง ความฝัน และเพิ่มโอกาสให้คนเด็กไทย คนไทยสู่ตลาดฟุตบอลนานาชาติ ไปโอลิมปิค แล้วต่อฟุตบอลโลกให้ได้ ตราบใดที่เรายังมีความหวัง เราก็มีสิทธิ์จะฝัน พวกเรามาเริ่มลงมือทำไปด้วยกันครับ”
