มาโน โพลกิ้ง เผยสาเหตุสำคัญที่เขากล้าที่จะเปลี่ยนผู้เล่นยกชุด ในเกมที่ ทีมชาติไทย ชนะ สิงคโปร์ ในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดสุดท้ายของศึกชิงแชมป์อาเซียน
มาโน โพลกิ้ง เผยสาเหตุที่ ทีมชาติไทย ตัดสินใจเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงแบบยกชุด ในเกมชิงแชมป์อาเซียน 2020 นัดสุดท้ายของ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ
เกมดังกล่าว ช้างศึก เอาชนะ สิงคโปร์ ไป 2-0 โดยได้ประตูจาก เอเลียส ดอเลาะ และ ศุภชัย ใจเด็ด ช่วยให้ทีมมี 12 คะแนนเต็ม และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ในฐานะแชมป์กลุ่ม
หลังจบเกม มาโน โพลกิ้ง กล่าวว่า “แน่นอนว่าเรารู้สึกดีใจ และภูมิใจมาก ที่นักเตะที่ได้โอกาสทั้ง 11 คน ในวันนี้รวมถึง ตัวสำรองอีกห้าคนทั้งหมด ต่างเป็นนักเตะที่ยังไม่ค่อยได้โอกาส แต่เรารู้ดีอยู่แล้วว่า ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา เราต้องมีทีมสปิริตที่ยอดเยี่ยม และต้องมีความเป็นทีม และวันนี้ก็เป็นชัยชนะของทีม ที่ช่วยกันซ้อม ช่วยให้การซ้อมมีคุณภาพ ทุกๆวัน ทุกคน ก็พยายามผลักดัน แน่นอนว่าการได้คุมทีมชาติไทยก็ถือเป็นงานในฝันของผมอยู่แล้ว ทั้ง 30 คนที่เราเรียกมา เราเองก็คิดว่าทุกคนต่างเหมาะสมอยู่แล้ว กับสถานการณ์นี้ และทุกคน ก็แสดงให้เห็นมีความสามารถ และทุ่มเท และทำให้เราชนะทั้งสี่เกมที่ผ่านมา แน่นอนว่าเราวางแผนไว้อยู่แล้วว่า เราจะใช้นักเตะทั้งหมด ลงมาเล่นในเกมนี้ ขอแสดงความยินดีกับ ทุกคนด้วย อย่าง ปวีร์ ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และเป็นเกมแรกที่เขาได้ลงในทัวร์นาเมนต์นี้ ขอแสดงความยินดีกับทุกคนในทีม แต่เราจะมีความสุขและดีใจได้แค่วันนี้วันเดียว เพราะว่าพรุ่งนี้เราก็ต้องทำงานหนักกันต่อไป เพราะเรามีงานในรอบรองชนะเลิส รออยู่ ทุกนัดจะมีความหมาย หากเราสามารถสานต่อชัยชนะของเราได้”
“เหตุผลที่ผมเปลี่ยนนักเตะทั้ง 11 คน ในเกมนี้เพราะผมเชื่อมั่นในตัวผู้เล่น เพราะทุกคนแสดงให้ผมเห็นตั้งแต่วันแรก ที่ผมคุมซ้อม ทั้งความทุ่มเท และมีคุณภาพ และช่วยผลักดันนักเตะในชุดก่อนหน้านี้ และที่ก่อนหน้านี้หลายคนทำได้ดี ก็เพราะนักเตะ 11 ตัวจริงในชุดนี้ ด้วยความทุ่มเทแบบนี้ ทำให้พวกเขาเหมาะสมที่จะได้รับโอกาส”
“อีกเหตุผลคือ ผมอยากเห็นผู้เล่นเหล่านี้ทั้ง 11 คน ได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลสิงคโปร์ และทีมที่มีคุณภาพแบบนี้ อย่างที่ทราบผมได้รับงานคุมทีมก่อนทัวร์นาเมนต์นี้ไม่กี่วัน และยังไมได้อุ่นเครืองแม้แต่เกมเดียว เพราะฉะนั้น เราจะต้องใช้นักเตะกลุ่มนี้ เพื่อช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายให้ได้ ว่านักเตะกลุ่มนี้ก็รับมือกับความกดดันแบบนี้ได้ เรารู้ว่ามันค่อนข้างเสี่ยง แต่ว่ามันก็ช่วยให้นักเตะที่เล่นมาสามเกมแรกได้พัก และได้ซ้อมอย่างเต็มที่ทั้งอาทิตย์ เพราะโปรแกรมที่เราซ้อมก็จะไม่เหมือนกับที่เราซ้อมกับ 11 คนนี้ เพราะว่าเราต้องผ่อนลงในช่วงก่อนแข่ง แต่ชุดก่อนหน้านี้ ก็ได้ซ้อมแบบเต็มที่ และจะได้ซ้อมแบบเต็มที่ต่อไป และได้เข้ายิมสร้างความแข็งแกร่ง”
“ผมประทับใจฟอร์มการเล่นของทุกคนจริงๆ จนทำให้ไม่รู้ว่าเกมต่อไป เราจะจัดใครลงสนามไปบ้าง เพราะวันนี้ทั้ง 11 คนทีได้โอกาสก็แสดงให้เห็น สามารถทดแทนกันได้หมด ต้องชื่นชมผู้เล่นของเรา เรารู้ดีถึงการตัดสินใจก่อนหน้านี้ แต่เราไมได้ส่งข้อความไปหาคู่ต่อสู้อะไรทั้งนั้น เพราะเกมนี้สิงคโปร์ ก็ดูมีอาการล้า ที่เรากล้าตัดสินใจแบบนี้ เพราะสามเกมแรก เราทำได้ดี และคนที่ยังไม่ได้ลง ก็สมควรที่จะได้รับโอกาส สุดท้ายตอนนี้เราผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศแล้ว เราก็ต้องไปให้ถึงเป้าหมายของเรา สมมติถ้าเราผ่านรอบรองฯได้ และในรอบชิง ต้องเจอกับสิงคโปร์ อีกครั้งมันก็เป็นเกมที่ต่างกันออกไป นักเตะอาจจะสดกว่า เหนื่อยกว่า หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่แผนที่เราตั้งไว้ก่อนหน้านี้ถือว่าเราทำได้สำเร็จ “
สำหรับทีมชาติไทย เข้ารอบรองชนะเลิศ ไปพบกับ รองแชมป์กลุ่ม บี โดยนัดแรกจะแข่งขันในวันที่ 23 ธันวาคม และนัดที่สองจะแข่งขันในวันที่ 26 ธันวาคม 2564