มาโน โพลกิ้ง สวนกลับ ปาร์ค ฮัง ซอ ที่พยายามเรียกร้องให้มีวีเออาร์ โดยเชื่อว่าต่อให้มี ทีมชาติไทย ก็สามารถเอาชนะเวียดนามได้อยู่ดี
มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทีมชาติไทย สวนกลับ ปาร์ค ฮัง ซอ ว่าต่อให้ มี วีเออาร์ เขาก็มั่นใจว่าสุดท้ายทีมของเขาก็จะเป็นฝ่ายที่เอาชนะได้เหมือนเดิม
เกมแรก “ช้างศึก” เอาชนะ เวียดนาม ไป 2-0 โดย ฝ่ายหลังแสดงความไม่พอใจกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินเป็นอย่างมาก
“ด้วยความที่มีเวลาเตรียมตัวกันแค่ 2 วัน คงไม่สามารถซ้อมอะไรได้มาก จะเน้นเรื่องการวิเคราะห์จากเกมแรก สิ่งที่ไทยทำได้ดีและอะไรที่ต้องทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม สิ่งสำคัญคือสกอร์นำ 2-0 เป็นสกอร์ที่อันตราย ถ้าหากเวียดนามทำประตูได้ก็จะทำให้ได้ความเชื่อมั่นกลับมา ดังนั้นจะต้องมีสมาธิ ห้ามเสียประตูและเล่นแบบที่ทำได้ดีในครึ่งแรกของเกมแรก ถ้าหากทำประตูได้ก็จะทำให้ได้เปรียบมากยิ่งขึ้น เพื่อจะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศให้ได้” มาโน
“ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยแฮปปี้กับครึ่งหลังเท่าไหร่ แต่ก็เป็นเพราะแท็คติกตัวเองที่จะเน้นคอมแพคต์เกมมากขึ้น เลยทำให้โดนกดดันอย่างหนักจากเวียดนาม พวกเขามีโอกาสหลายครั้งทั้งยิงชนคาน-ชนเสา เท่ากับว่าแผนที่วางไปไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่นักจะต้องนำมาปรับปรุงในเกมนี้”
“ในเรื่องของวีเออาร์ ถ้าจะทำให้ฟุตบอลมันมีคุณภาพที่ดีก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องทำในวิธีที่ถูกต้องเหมือนอย่างลีกต่างประเทศทำกัน ส่วนจากเกมแรกที่มีคอมเมนต์ แฟนเวียดนามมากมาย ก็ยังคิดว่าต่อให้มีวีเออาร์ผลตัดสินก็จะยังออกมาแบบเดิม ไม่ได้ช่วยให้ผลตัดสินมันเปลี่ยนไป นอกจากนี้ถ้าพูดถึงวีเออาร์ไทยก็ควรจะได้ยิงจุดโทษใหม่ด้วยเพราะผู้รักษาประตูเวียดนามไม่ได้ยืนบนเส้น อย่างไรก็ตามไม่อยากให้ไปโฟกัสกับการตัดสินของผู้ตัดสิน เพราะในเกมมีหลายอย่างให้วิเคราะห์มากมายและมีสมาธิกับเกมดีกว่า”
“ตนไม่คิดว่าไทยกับเวียดนามใครมีคุณภาพดีกว่ากัน เพราะทั้งสองทีมมีทีมที่ดี ทรัพยากรนักเตะที่ดี และก็มีแนวทางการเล่นที่ชัดเจน ส่วนชนาธิปนั้นเรารู้คุณภาพของเขาเป็นอย่างดีและทำผลงานได้ดีมากๆ ในเกมแรก เป็นเรื่องดีที่มีชนาธิปอยู่ในทีม และหวังว่าจะทำผลงานได้ดีอีกในเกมนัดที่สอง ซึ่งจะเป็นเกมที่ยาก จะต้องเล่นเป็นทีมให้ได้ตลอด 90 นาที แต่อย่างที่บอกไว้ว่ามันเป็นเกมที่อันตรายและต้องมีสมาธิให้ได้”
“แผนการเล่นของเวียดนามคิดว่าจะต่างออกไปจากนัดแรก เพราะตอนนี้สกอร์มันเริ่มต้นที่ไทยนำอยู่ 2-0 คิดว่าเวียดนามน่าจะใช้แผนแบบเดียวกันในครึ่งหลัง ดันวิงแบ๊กขึ้นมาบุกมากขึ้นแล้วก็ขยับเหวียน กวง ไฮ เข้ามาตรงกลางมากขึ้น ซึ่งทีมไทยก็ต้องมาวิเคราะห์ในแต่ละจุดให้ดี พร้อมกับติวลูกทีมให้รับมือกับทุกระบบที่เวียดนามจะใช้ได้ นอกจากนี้จะกลับมาเล่นในแบบตัวเองเหมือนเกมครึ่งแรกที่ทำได้ดี ไม่แพ็คเกมรับมากเกินไปแบบในครึ่งหลังแล้ว”
ทีมชาติไทย จะพบกับ เวียดนาม รองแชมป์กลุ่ม บี ในรอบรองชนะเลิศของศึกชิงแชมป์อาเซียน โดยนัดที่สองจะแข่งขันในวันที่ 26 ธันวาคม 2564 โดยทุกนัดถ่ายทอดสดทาง CH7 HD และ AIS