มาร์ค อลาเบดร้า ปาลาซิโอส หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี กล่าวถึงการเก็บตัวนักเตะที่แคมป์เกียรติธานี ระหว่างวันที่ 31 กรกฎาคม – 10 สิงหาคม 2560
ก่อนหน้านี้ทางสมาคมฯ ได้ประกาศรายชื่อ 41 นักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี เพื่อเก็บตัวรอบแรก สำหรับการเตรียมทีมทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ที่จะมีขึ้นที่เมียนมา และ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ที่ประเทศมองโกเลีย
มาร์ค อลาเบดร้า ปาลาซิโอส กล่าวเริ่ม “เป้าหมายในการเก็บตัวครั้งนี้ คือการคัดเลือกนักกีฬาสำหรับแข่งขันในชิงแชมป์อาเซียน และ ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก และการเลือกช่วงเวลานี้น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะเราต้องการรู้ข้อมูลของทุกคน ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร บางคนเล่นกับโรงเรียน บางคนเล่นกับสโมสร มันมีความแตกต่างมากแค่ไหน”
“สำหรับบางคนที่ไม่มีชื่อในรอบนี้ อย่างเช่น และ (กฤษดา กาแมน) หรือ บุ็ค (เอกนิษฐ์ ปัญญา) เป็นเพราะเราจะเรียกเขามาอีกรอบ และน่าจะติดทีมที่อายุไม่เกิน 21 ปี และแน่นอน เขามีรายชื่อในรอบสุดท้าย เพราะเขาคือนักเตะตัวหลักและเราก็ได้ดูแล้วว่า มันคงดีกว่าถ้าเขาจะไปฝึกกับทีมรุ่นที่โตกว่ารุ่นของตัวเอง”
“ส่วนในรายของ ย้า (สิทธิโชค ภาโส) เขาเล่นที่ญี่ปุ่น เราต้องการให้เขาสู้ในญี่ปุ่น บางทีในช่วงทัวร์นาเมนต์เขาอาจจะถูกเรียกมาติดทีม หากสโมสร คาโงชิมา ยูไนเต็ด อนุญาตปล่อยตัวเขา”
“การเรียกนักเตะมา 41 คน เราต้องยอมรับว่าบางคนก็ต้องเล่นในยูโร่ เค้ก ลีก ซึ่งบางคนอาจจะมาร่วมทีมได้ประมาณ 2-3 วันเท่านั้นในการเก็บตัวรอบนี้ ที่ผ่านมาเราทำงานหนักมาตลอดในการเสาะหาผู้เล่น หลายคนเล่นในลีกอาชีพ และได้โอกาสลงสนามมากมาย แต่บางคนยังเล่นกับโรงเรียน มันอาจจะยากในการสเกาท์ ซึ่งผมคิดว่าการเรียกตัวมาในรอบนี้ถือเป็นเรื่องดีในการเช็คหลายสิ่งหลายอย่างแบบใกล้ชิด”
“การเก็บตัวครั้งนี้สิ่งสำคัญคือการคัดเลือกนักกีฬาให้เหลือ 26 คน ก่อนที่จะแข่งขันชิงแชมป์อาเซียน ก่อนหน้านี้ผมก็ได้ไปช่วยทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี มันมีความแตกต่างกัน เพราะชุด U15 คือทัวร์นาเมนต์แรกของเอคโคโน และ นั่นคือการร่วมกันทำงานครั้งแรก แต่ชุด U18 เราเคยร่วมงานกันมาแล้ว ในตอนที่ฆูเลียน มาริน บาซาโล และ ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย ในการแข่งขัน Aspire Tri-Series ที่ประเทศกาตาร์ ตอนนี้เรามีข้อมูลมากมาย”
“ผมคิดว่าเราสามารถใส่อะไรลงไปได้หลายอย่างทั้งเรื่องเกมรุก เกมรับ ซึ่งแตกต่างจาก ชุด U15 ที่เรามีเวลาใส่แค่เกมรับลงไปอย่างเดียว ชุด U15 เราจบด้วยการเป็นรองแชมป์อาเซียน ผมไม่กดดันเลยเรื่องเป้าหมาย เราต้องการสร้างทีมขึ้นมา ทำให้ทุกคนเห็นว่าเราเล่นด้วยกันเป็นทีม นั่นคือสิ่งสำคัญที่เราต้องทำ”
ข้อมูลและภาพ : ฟุตบอลทีมชาติไทย
