“มานูเอล” เปิดใจ ผมอ่านทุกคอมเมนต์ เพื่อการผลักดันตัวเอง

มานูเอล ทอม เบียห์ร เผยว่าตัวเขาได้อ่านทุกคอมเมนต์ของแฟนบอล เพื่อนำมาเป็นแรงผลักดันให้กับตัวเองในการรับใช้ทีมชาติไทย

มานูเอล ทอม เบียห์ร ยอมรับว่าตัวเขา อ่านทุกคอมเมนต์ของแฟนบอล เพื่อนำมาเป็นกำลังใจในการยกระดับฝีเท้าของตัวเอง เพื่อช่วยให้ทีมชาติไทยได้ผลงานที่ดีที่สุด

สำหรับ มานูเอล ถือเป็นกำลังหลักของทัพช้างศึก หลังได้ลงสนามในสามเกมแรกจับคู่กับ กฤษดา กาแมน และทำให้ทีมเสียไป 1 ประตู

“ผลการแข่งขันทั้งสี่นัดในรอบแบ่งกลุ่มถือว่าสุดยอดมาก ที่เราชนะทั้งสี่เกม ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้ แต่มันเป็นแค่ก้าวแรก เกมต่อไป ถือเป็นบททดสอบของจริง ตอนนี้เราต้องพยายามทำให้ดีที่สุด รักษาบรรยากาศภายในทีมให้เข้มข้นตลอดเวลา และมันจะเป็นเรื่องดี สำหรับทีมของเรา” มานูเอล กล่าว

“ผมมีความสุขกับบรรยากาศภายในทีมตอนนี้ เป้าหมายของเราในรอบแบ่งกลุ่ม แน่นอนว่าเราต้องการเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัด ตั้งแต่ตอนที่เราเดินทางออกมาจากประเทศไทย ทุกคนพูดเสมอว่าจะเอาแชมป์กลับไป เราคาดหวังสิ่งที่ดีที่สุด เรามั่นใจกับทีมของเรา และตำแหน่งของเรา ในอาเซียน เราทำได้ค่อนข้างดีในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ผมคิดว่าเราสามารถทำได้ดีกว่านี้ ตอนนี้เราได้ผลทีดี ตอนนี้เรามีเกมสำคัญรออยู่ และเราต้องการทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม”

“ผมคิดว่าจังหวะสำคัญของเราในรอบแบ่งกลุ่มคือ เกมที่เจอกับฟิลิปปินส์ ที่เราเสียประตู แต่เราตอบกลับมาได้ และตัวสำรองที่ลงมาก็ช่วยเหลือทีมได้ดีมาก ใช่ผมพูดภาษาเยอรมันได้ และเกมนั้นก็ได้คุยกับสเตฟาน ชร็อคเหมือนกัน เขาเป็นเพื่อนของภรรยาผม และผมก็ได้คุยกับ อ็อตต์ ที่เคยเล่นด้วยกันที่เนิร์นแบร์ก รวมถึงนักเตะฟิลิปปินส์ ที่เล่นในไทยลีก”

“ผมคิดว่าทุกตำแหน่งของเรามีการแข่งขันกันสูงมาก ไม่ใช่แค่กองหลัง แต่ละตำแหน่งมีนักเตะถึงสามคน และทุกคนสามารถทดแทนกันได้ มันไม่ใช่ปัญหาเลยว่าใครจะลงสนาม นี่คือจุดแข็งของเราที่ทุกคนพร้อมจะลงมาเปลี่ยนเกม บางทีจุดนี้อาจจะทำให้เราประสบความสำเร็จ”

“แน่นอน ธีรศิลป์ ตอนนี้เข้าขั้นตำนานของทีมชาติไทย แล้ว เขาซ้อม การวางตัวในห้องแต่งตัว เขาเปรียบเป็นเหมือนพี่ใหญ่ของทุกคน และฟอร์มในสนามก็สุดยอดมาก บางทีถ้าเราคิดอะไรไม่ออก ก็ส่งบอลให้เขา และเขาจะทำบางสิ่ง”

“การผสมผสานระหว่างนักเตะในไทยลีกกับคนที่ค้าแข้งต่างประเทศ มันค่อนข้างง่าย เพราะทั้งหมด ต่างเป็นนักเตะที่ดี และช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี ทำให้ทุกคนมีความสุข พวกเขาถ่อมตัว และ ทำงานหนักในทุกวัน”

“ส่วนการทำงานกับมาโน ผมเคยร่วมงานกับเขามาแล้ว ผมร่วมงานกับเขามานานถึงสี่ปี และเป็นข้อได้เปรียบสำหรับตัวผม ที่รู้จักกับเขามาก่อน การซ้อม และแท็คติก และบรรยากาศก็ออกมาดี มาโน รู้ดีว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ในทีมออกมาดีได้อย่างไร ทั้งดาวรุ่ง เขาผสมผสานมันได้ดีมาก บางทีอาจจะเพราะความเป็นลูกครึ่ง ที่ บราซิล จะมีความสนุกสนาน และทำให้ทุกคนเหมือนเป็นครอบครัวเดียว เขาสร้างเสียวหัวเราะได้เสมอ และมันทำให้บรรยากาศมันออกมาดี”

“การรักษาสภาพความฟิต มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางวันเราทำได้แค่กินข้าวเช้า กลางวัน ซ้อมและกินข้าวเย็น และพัก และในสถานการณ์แบบนี้ เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด ทำให้ดีขึ้นเกมต่อเกม และได้ดูบางเกมด้วยกัน เราทำทุกอย่างด้วยกัน ทำให้มันออกมาง่าย”

“ทุกวันเราเองก็อ่านคอมเมนต์ จากแฟนบอลเพื่อเป็นกำลังใจให้กับพวกเรา ซึ่งเราได้เห็นเยอะมาก และคนไทยส่วนมากก็ติดตามพวกเรา และเราอยากทำให้พวกเขาภูมิใจ แต่เราต้องมีสมาธิและทำให้ดีที่สุด การเล่นในไทยลีกมันมีความสูสีมากขึ้นเรื่อยๆ หากเทียบกับ 5 ปีก่อนที่ผมมาไทยครั้งแรก ตอนแรกมีแค่ 3 ทีม คือบุรีรัมย์ เมืองทอง และ แบงค็อก เท่านั้น และยิง 100 ประตูต่อปี และคุณภาพของลีกตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ มีแท็คติก และมีหลายทีมที่สร้างความแปลกใจ ตอนนี้นักเตะต่างชาติระดับท็อปเข้ามามากมาย ผมหวังว่มันจะสนุกขึ้นไปอีก”

“การที่ลีกแข็งแกร่งย่อมส่งผลดีต่อทีมชาติ นักเตะที่ดีหลายคนต่างช่วยกันยกระดับกัน มีนักเตะที่ดี ทีมที่ดี และหวังว่าในอนาคตเราจะประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ แน่นอนว่าเรื่องโควต้าของเอเอฟซ๊ แชมเปี้ยนส์ลีกเพิ่มขึ้นย่อมส่งผลตีกับลีกของเรา จากแต่ก่อนมีไม่กี่ทีม และตอนนี้เราต้องเดินหน้าต่อไป ทำให้ถูกต้อง เพือประสบความสำเร็จอะไรบางอย่าง”

โปรแกรมนัดต่อไปทีมชาติไทย จะพบกับ ทีมชาติสิงคโปร์ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 18 ธันวาคม 2564 เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD