“ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ผ่านเข้าสู่นัดชิง ซูเปอร์โคปา เดอ เอสปันญ่า เป็นทีมแรก หลังเฉือนชนะ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ในรอบรองชนะเลิศช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-2 ที่คิง ฟาฮัด อินเตอร์เนชั่นแนล สเตเดี้ยม ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่อคืนวันที่ 12 ม.ค.
คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือ เรอัล มาดริด จัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามไปเลย โดยแดนกลางใช้ 3 ประสาน โทนี่ โครส, คาเซมิโร่ และ ลูก้า โมดริช ส่วนกองหน้ายังคงเป็นหน้าที่ของ คาริม เบนเซม่า
โดยเกมนี้ ชาบี้ เอร์นันเดซ กุนซือ บาร์เซโลน่า ตัดสินใจให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ปีกตัวใหม่ลงประเดิมสนามเป็นนัดแรก เพื่อประสานแนวรุกร่วมกับ ลุค เดอ ยอง และ อุสมาน เดมเบเล่
ในช่วงครึ่งแรก “ราชันชุดขาว” ออกนำไปก่อนจาก วินิซิอุส จูเนียร์ ในนาที 25 หลังจากนั้น “เจ้าบุญทุ่ม” ตามตีเจ๊าได้จาก ลุค เดอ ยอง ในนาที 41 จบครึ่งแรก เสมอ 1-1
เข้าสู่ครึ่งหลัง เรอัล มาดริด ออกนำอีกครั้งจาก คาริม เบนเซ่า ในนาที 72 แต่ บาร์ซ่า ตามทวงคืนได้จาก อันซู ฟาติ ในนาที 83
จบ 90 นาที เสมอ 2-2 จึงต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาทีเพื่อตามหาผู้ชนะกันต่อไป และเป็นฝ่าย “ราชันชุดขาว” มาได้ประตูชัยจาก เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ในนาที 98
หมดเวลาการแข่งขัน เรอัล มาดริด เป็นฝ่ายชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-2 ได้ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะในรอบตัดเชือกอีกหนึ่งคู่ระหว่าง แอตเลติโก มาดริด พบกับ แอธเลติก บิลเบา กันต่อไป