เจมส์ ปาล็อตต้า ประธานสโมสร “หมาป่า” เอเอส โรม่า แสดงความถึงความไม่พอใจในการทำงานของผู้ตัดสินในเกมแชมเปียนส์ลีกรอบรองชนะเลิศนัดที่สองที่ จัลโลรอสซีนั้นเอาชนะ หงส์แดง ลิวเอร์พูลไปได้ 4-2 ทว่าพลาดท่าตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 7-6
โดย ปาล็อตต้าคาใจจากจังหวะที่ผู้ตัดสิน ดาเมียร์ สโกมีน่า ชาวสโลเวเนีย ปฎิเสธที่จะให้ลูกจุดโทษกับโรม่าจากจังหวะที่บอลไปโดนแขนอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ในกรอบเขตโทษ
นอกจากจังหวะแฮนด์บอลของอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์แล้ว เอดิน เชโก้ ก็ถูกนายทวารทีมลิเวอร์พูลทำฟาวล์ในเขตโทษเช่นเดียวกัน ทว่า ผู้ตัดสินนั้นยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้าทั้งที่ตามภาพรีเพลย์นั้นเชโก้อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ล้ำหน้า
“มันชัดเจนมากว่าเราต้องมีการนำเอา วีเออาร์ (VAR) มาใช้ในการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เพราะว่าเราจะปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกไม่ได้”
“คุณสามารถดูออกเองได้เลย เชโก้โดนผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลทำฟาวล์ในนาทีที่ 49 และในนาทีที่ 63 ก็เป็นแฮนด์บอล ทุกคนบนโลกเห็นทั้งสองเหตุการณ์นั้นยกเว้นคนที่อยู่นสนาม”
“ผมรู้ว่ามันยากสำหรับกรรมการแต่มันน่าอับอายมากที่เราแพ้ด้วยสกอร์รวมเพราะเหตุการณ์แบบนี้ และอีกอย่างนึงมันควรจะเป็นใบแดงในนาทีที่ 63 นะ พวกเขาควรจะเหลือแค่ 10 คน ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่ดีผมยินดีกับพวกเขาด้วยที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แต่ถ้าเรายังไม่เอา วีเออาร์ มาใช้ในแชมเปียนส์ลีกเหตุการณ์พวกนี้มันน่าขำขันมาก”
มอนชี ผู้อำนวยการสโมสร โรมาก็ออกมาสนับสนุนประธานสโมสรของเขาเช่นเดียวกันในการพลักดันให้นำวีเออาร์ มาใช้ในถ้วยใบใหญ่สุดของยุโรป
“ผมขอแสดงความยินดีกับลิเวอร์พูล แต่ว่าเราต้องกลับมาวิเคราะห์ดูว่าเกิดอะไรขึ้นในเกม มันมีสองจังหวะที่ชัดเจนที่ทีมของเราควรจะได้จุดโทษ
และการที่เราไม่ได้มันจากสองจังหวะนั้นเปลี่ยนทุกอย่างไปเลย และในเกมแรกลิเวอร์พูลก็ได้ประตูจากลูกล้ำหน้าอีกด้วย”
”ผมขอพูดอีกครั้งนึงว่าต้องมีการนำ วีเออาร์ มาใช้ในแชมเปียส์ลีกให้ได้ ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไม วีเออาร์ยังไม่ถูกนำมาใช้ในการแข่งขันที่สำคัญที่สุดในโลก”
