ปฏิเสธไม่ได้ว่า ข่าวคราวของผู้รักษาประตูดาวรุ่ง อย่าง วรวุฒิ สุขุนา ที่เกิดเหตุเมาแล้วขับ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ได้สร้างแรงสั่นคลอนให้กับ ชลบุรี เอฟซี เป็นอย่างมากโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งในภาพลักษณ์ของสโมสร รวมถึงเกมในสนาม เพราะ วรวุฒิ สุขุนา เป็นผู้รักษาประตูที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ดี แต่กลับต้องโดนยกเลิกสัญญาเพราะพิษสุราและความประมาท
โดยในเกมที่ ชลบุรี เอฟซี มีคิวเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ สุโขทัย เอฟซี ในวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคมนี้ ฉลามชลจะไม่มีผู้รักษาประตูประสบการณ์สูงลงเล่น เหลือเพียงประตูดาวรุ่ง มือ 3 กับ มือ 4 เพียง 2 ราย นั้นคือ ชมพัฒน์ บุญเลิศ อายุ 19 ปี สูง 184 cm. และ อับดุลฟารุส สะมะแอ อายุ 19 ปี สูง 196 cm. ใน 2 คนนี้ ยังไม่มีใครเคยลงเล่นไทยลีก เลยแม้แต่วินาทีเดียว
บุญคง อรรคบุตร โค้ชผู้รักษาประตูของ ชลบุรี เอฟซี ได้กล่าวถึงนักเตะทั้ง 2 คน ก่อนเกมเจอ สุโขทัย เอฟซี ว่า
“ค่อนข้างหนักใจ เพราะดาวรุ่งทั้ง 2 คน อย่าง ชมพัฒน์ กับ ฟารุส ยังไม่เคยมีประสบการณ์กับเกมไทยลีกมาก่อน แต่เราทุกคนก็เชื่อมั่นในตัวเขาทั้งคู่ว่า ยามหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนี้ เขาจะทำหน้าที่ของตัวเอง ช่วยทีมได้อย่างยอดเยี่ยมได้แน่นอน”
รวมถึงในตำแหน่งเซ็นเตอร์ตัวหลัก อย่าง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ก็จะไม่ได้ลงสนามในเกมนี้เช่นกัน เนื่องจากกำลังถูกสอบสวนจากสโมสร ว่ามีส่วนร่วมกับเหตุการณ์นี้ด้วยหรือไม่ ทำให้สโมสรจำเป็นต้องพักกองหลังจอมเก๋ารายนี้ไปก่อน ซึ่งนักเตะที่คาดว่าจะลงมาเล่นแทน เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว คือ ซอ มิน ตุน นักฟุตบอลทีมชาติเมียนมา ทำให้ฉลามชล จะต้องประสบปัญหากับเกมในสนามโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม วิกฤตในเกมครั้งนี้ของฉลามชล จะเป็นตัวชี้วัดอนาคตของทีมได้เป็นอย่างดี ว่าพร้อมจะยืนหยัด ฝ่าฟันอุปสรรคของคลื่นลมมรสุมลูกนี้ไปได้มากน้อยแค่ไหน ในการที่จะเรียกศรัทธาฟ้า-น้ำเงิน กลับมาให้ได้อีกครั้ง ดั่งสมญานามว่า ชลบุรี เอฟซี คือ “ต้นแบบทีมอาชีพของเมืองไทย”
ผลสกอร์ที่คาด : ชลบุรี เอฟซี 2 – 0 สุโขทัย เอฟซี
– บีจี ปทุมฯ ในวันที่ไร้ เทกุระโมริ
จบเกมที่ ทรู แบงค็อกฯ เปิดบ้านชนะ บีจี ปทุมฯ 2-0 ให้หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก็มีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้น เมื่อ บีจี ปทุมฯ จัดการ เด้ง มาโกโตะ เทกุระโมริ กุนซือใหญ่ของทีม อย่างเซอร์ไพรส์แฟนบอล เหตุเพราะพาทีมอยู่อันดับที่ 7 ของตาราง ไม่เข้าไปอยู่ในโซนลุ้นแชมป์อย่างที่หวัง โดยให้ มิตซูโอะ คาโตะ เป็นกุนซือขัดตาทัพให้ชั่วคราว
ในวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคมนี้ บีจี ปทุมฯ มีคิวจะเปิดบ้านรับ ลำปาง เอฟซี ทีมลุ้นหนีตกชั้น โดย บีจี ปทุมฯ จะไม่มีเฮดโค้ชใหญ่เป็นครั้งแรกของฤดูกาลนี้ แต่คาดว่าด้วยขนาดของทีมและขุมกำลังผู้เล่นที่แตกต่างจาก ลำปาง เอฟซี อยู่หลายช่วงตัว จะทำให้เอาตัวรอดจากเกมนี้ไปได้
ผลสกอร์ที่คาด : บีจี ปทุมฯ 2 – 0 ลำปาง เอฟซี
– งานเต้นรำครั้งถัดไปของมาริโอและเมืองทองฯ
หลังเกมที่เปิดบ้านชนะ พีที ประจวบ 5-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มาริโอ ก็ได้รับความไว้วางใจจากบอร์ดบริหาร ให้อยู่คุมทีมต่อ ซึ่ง “บิ๊กเป้” รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรกล่าวว่า “จริงๆมันไม่ใช่แนวทางของสโมสรที่จะต้องแยกทางกับมาริโอ มาริโอเป็นโค้ชที่เซ็นสัญญายาว อยากเห็นเขาทำทีมฟุตบอลเมืองทองให้นานๆ”
ซึ่งในเกมวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคมนี้ เมืองทองฯ มีคิวบุกไปเยือน ลําพูน วอริเออร์ ทีมที่เพิ่งเก็บชัยชนะนัดแรกได้บนลีกสูงสุด ทำให้พวกเขาก็มีขวัญกำลังใจเต็มเปี่ยมด้วยเช่นกัน ทำให้คาดว่าเกมนั้นนี้ จะออกมาสนุก สูสี อย่างแน่นอน
ผลสกอร์ที่คาด : ลําพูน วอริเออร์ 1 – 1 เมืองทองฯ
– เจอกันถูกที่ถูกเวลา ของบิ๊กแมตช์ บุรีรัมย์ พบ ทรู แบงค็อกฯ
วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 1 มีคิวเปิดบ้านต้อนรับ ทรู แบงค็อกฯ ทีมอันดับ 2 ของศึกไทยลีก ซึ่งนับว่าเป็นการแข่งขัน ที่เจอกันถูกที่ถูกเวลาอย่างบังเอิญ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีแต้มห่าง เพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น และกำลังทำผลงานได้ดี เมื่อ 5 นัดหลังสุด ยังไม่แพ้ใครเลย ส่วน ทรู แบงค็อกฯ เป็นอีกครั้งที่พวกเขา ขึ้นมาท้าทายเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศ แต่ต้องลุ้นกันอีกทีว่า สุดท้ายแล้ว ทรู แบงค็อกฯ จะยืนระยะได้นานขนาดไหน
สถิติการพบกันของทั้งคู่ มีดังนี้ ทรู แบงค็อกฯ แพ้ถึง 17 จาก 26 นัดที่พบกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รวมถึง ทรู แบงค็อกฯ ไม่ชนะใน 12 นัดล่าสุดที่ออกไปเยือน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ผลสกอร์ที่คาด : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2 – 1 ทรู แบงค็อกฯ
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของคู่อื่นๆ มีดังนี้
– โปลิศ เทโร เอฟซี – หนองบัว พิชญ เอฟซี
ผลสกอร์ที่คาด : โปลิศ เทโร เอฟซี 1 – 0 หนองบัว พิชญ เอฟซี
– พีที ประจวบ เอฟซี – ขอนแก่น ยูไนเต็ด
ผลสกอร์ที่คาด : พีที ประจวบ เอฟซี 2 – 0 ขอนแก่น ยูไนเต็ด
– การท่าเรือ เอฟซี – ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด
ผลสกอร์ที่คาด : การท่าเรือ เอฟซี 2 – 2 ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด
– นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี – ราชบุรี เอฟซี
ผลสกอร์ที่คาด : นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 1 – 0 ราชบุรี เอฟซี
