“เจ้าบาส” เสฎฐวุฒิ วงศ์สาย เปิดใจผ่าน ชลบุรี เอฟซี หลังเจ้าตัวแจ้งเกิดให้กับตัวได้สำเร็จ ในทีมชุดใหญ่ฉลามชล ในเกม โตโยต้า ไทยลีก 2018
กลายเป็นฮีโร่คนใหม่ของ ชลบุรี เอฟซี ในชั่วข้ามคืน สำหรับ “เจ้าบาส” เสฎฐวุฒิ วงศ์สาย วัย 20 ปี ที่ลงประเดิมสนามเกมแรกในสีเสื้อ “ฉลามชล” ซีซั่นนี้
หลังซัดประตูโทน ช่วยให้ทีม กลับมาตามตีเสมอ ราชนาวี 1-1 ในเกม โตโยต้า ไทยลีก 2018 เมื่อคืนวันศุกร์ ที่ผ่านมา (16 ก.พ.)
ครูฟุตบอลคนแรกคือคุณพ่อ
“ผมเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 5 ขวบครับ คุณพ่อผมเองไปคนสอนพร้อมด้วยป๋าวิรัตน์และเสี่ยกอครับ คุณพ่อของผมรับราชการตำรวจ ตัวผมเองเป็นเด็กสกลนคร ใช้ชีวิตเหมือนเด็กบ้านนอกคนนึงเตะฟุตบอลอยู่กับรร.พังโคนจำปาแถวบ้านเรื่อยมา จากนั้นผมก็มีโอกาสเข้ากรุงเทพตอนม.1 และได้มาเข้าเรียนและเตะฟุตบอลที่รร.ราชวินิต สุวรรณภูมิ แต่ผมเรียนได้แค่เทอมเดียวผมก็ย้ายไปอยู่กับ รร.สวนกุหลาบปทุมฯ จนกระทั่งม.4 ผมก็ย้ายรร.อีกครั้ง ครั้งนี้เรียนรร.ปทุมวิไล ครับ”
ยิงฉลามจูเนียร์ 2 ตุง สะดุ้งถึงหัวใจ “เฮงซัง”
“จุดเริ่มต้นของการเข้ามาอยู่กับชลบุรี ผมได้เข้ามาที่อคาเดมี่ชลบุรี ตอนอายุ 17 ครับ ตอนนั้นได้ลงเล่นฟุตบอลในรายการปตท.รุ่นอายุ 16 ปี และเกมนั้นเป็นรอบ 8 ทีม ผมเล่นในนามรร.ปทุมวิไลครับ เกมนั้นเสมอกัน 2-2 และผมก็ยิงได้ 2 ประตู ซึ่งคู่แข่งของผมในอคาเดมี่ชลบุรี ก็คือ ยิม,นัท ,โฟล์ค ทว่าเกมนั้นในเวลาเสมอกันแต่ผมแพ้จุดโทษครับ พอหลังเกม โค้ชเฮงก็ให้พี่หนุ่มเลขาทีมอคาเดมี่ชลบุรี มาทาบทามผมไปอยู่กับชลบุรี แต่ตอนแรกผมก็ยังไม่ไปครับ เพราะผมเป็นเด็กอคาเดมี่ของตำรวจอยู่ จนสุดท้ายพออายุ 17 ปี ผมจึงตัดสินใจย้ายมาชลบุรี”
เจ็บปวดจนเกือบแขวนเกือกในวัยละอ่อน
“ความเจ็บปวดคือสิ่งที่ผมผิดหวังมากครับ ผมต้องผ่าตัดเข่า หลังจากเจ็บจากฟุตบอล 7 สี ซึ่งปีนั้นชลบุรี ได้รองแชมป์ ผมต้องพักรักษาตัวถึง 6 เดือน ผมผิดหวัง และผมเหลือบไปคิดถึงการเลิกเล่นฟุตบอล แต่ท้ายที่สุดครอบครัวและเพื่อนก็เป็นกำลังใจให้ผมกลับมาสู้ต่อครับ”
รับใช้ชาติครั้งแรกพร้อมยิงเปิดตัว
“พอหายจากอาการบาดเจ็บชีวิตฟุตบอลของผมก็เริ่มดีขึ้น ผมได้แชมป์ยูธลีกยู 19 กับฝูงฉลามเป็นดาวซัลโวประจำรายการ จนได้มีโอกาสติดทีมชาติไทยชุดยู 21 ปี และผมก็ยิงได้ 1 ประตู ในเกมยิงเจ้าภาพเวียดนาม ในฟุตบอลทันเนียนคัพ เกมวันนั้นมันเสมือนความฝันของผมครับ กับการติดทีมชาติครั้งแรก และยิงประตูได้”
16 ก.พ.2018 วันแจ้งเกิด บาสน้ำหวาน
“ผมมีความสุขมาก จนยากจะลืม นาทีที่ 74 จังหวะนั้นพี่ก้องจ่ายบอลทะลุช่องมา และผมวิ่งทำทางพร้อมตะโกนให้พี่ดิวปล่อยบอล จนบอลขลุกขลิกมาเข้าทางผม ผมตัดสินใจก้มหน้าซัดเต็มข้อ และบอลก็เข้าประตูไป ประตูนี้จะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดชีวิตครับ”
ฟุตบอล คือ ความมานะ ฟุตบอลคือชีวิต
“เรื่องดียวที่ผมอยากจะพูดที่สุดก็คือ ผมอยากให้ทุกคนได้อดทน และต่อสู้ครับ โดยเฉพาะน้องๆในอคาเดมี่ ที่เวลานี้กำลังฝึกฝนวิชาอยู่หลายร้อยคน สำหรับผมผมไม่ใช่คนที่มีทักษะฟุตบอลที่ดี และผมก็ไม่ใช่นักฟุตบอลที่เก่ง แต่ผมเป็นนักฟุตบอลที่สู้ตายจนเกิน 90 นาที ผมเล่นฟุตบอล เพื่อคุณพ่อคุณแม่ผม ผมส่งเงินให้ที่บ้านทุกเดือน ผมเหนื่อยแต่ไม่เคยท้อ และฟุตบอลจะต้องทำให้ครอบครัวของผมมีความสุขให้ได้”
Photo : Chonburi Football Club