ฟาฮัด อับดุลลาเยฟ ที่ปรึกษาฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสินของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า และ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี กล่าวถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในโตโยต้า ไทยลีก สัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึง การใช้ระบบ AAR มาใช้ในเกมบิ๊กแมตช์ทั้งสามคู่
การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก สัปดาห์ที่ 2 ที่ผ่านมา ได้มีการนำผู้ตัดสินที่ 5 และ 6 มาใช้ในเกมคู่บิ๊กแมตช์ ทั้งในเกมของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ การท่าเรือ เอฟซี, โปลิศ เทโร เอฟซี พบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ บางกอกกล๊าส เอฟซี
“จากผลงานที่เราได้ใช้ ระบบ AAR ครั้งแรก ซึ่งมีทั้งหมด 3 คู่ ผลที่ออกมาก็น่าพอใจ เพราะทั้งสามคู่เป็นเกมบิ๊กแมตช์ และทีมก็ไม่ได้มีการประท้วงฟ้องร้องใดๆทั้งสิ้น รวมถึงคู่อื่นๆ ยิ่งเป็นคู่ใหญ่ก็ไม่มีกระแสมาทางลบเลย ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ในการใช้ระบบ AAR ในคู่อื่นๆต่อไป ทั้งในคู่บิ๊กแมตช์ รวมถึงเกมของทีมอื่นๆ” ฟาฮัด กล่าวเริ่ม
“หลังจากนี้เราก็ไม่ได้มองว่าจะใช้แต่คู่ใหญ่ หลักๆคือเราจะพยายามดูเกมที่น่าจะเป็นบิ๊กแมตช์ และเคยมีปัญหามาก่อน เราก็จะเอามาใช้ ในอนาคตเราอาจจะเลือกสโมสรอื่นๆ เพื่อใช้เฉลี่ยไปในทุกๆทีม”
“ตอนนี้ผู้ตัดสินคนอื่นๆ ที่แม้จะไม่ได้ไปอบรมที่ตุรกี แล้วได้ทำหน้าที่ในแมตช์ที่ไม่ใช่บิ๊กแมตช์ เขาก็พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อเก็บคะแนน เพราะเรามีการเก็บคะแนนผู้ตัดสินเสมอ เพื่อเอาเกณฑ์ตรงนี้มาวัด ในการเลือกคนไปอบรมที่ต่างประเทศในช่วงต่อๆไป และพอช่วงฟีฟ่า เดย์ ในเดือนมีนาคม เราก็จะดึงพวกเขาเหล่านี้มาร่วมสัมมนาด้วย เพื่อเสริมเรื่อง AAR สำหรับผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ได้ดี แต่ไม่ได้ไปอบรมที่ประเทศตุรกีในครั้งที่ผ่านมา เพื่อให้ทุกคนมีความรู้และอัพเดตเรื่องกฏ กติกา ให้เท่าเทียมกัน”
“ทุกคนมีความกระตือรือร้นมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะเหมือนการได้ไปอบรมที่ต่างประเทศ เหมือนเป็นรางวัล และได้เป็นการพัฒนาตัวเองเพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ตัดสินระดับชั้นนำของประเทศ คือถ้าคะแนนดี มีคุณภาพ การเสนอชื่อไปทำหน้าที่รายการใหญ่ ก็จะได้รับการพิจารณา”
“ส่วนเรื่องระบบ VAR เราก็ได้เห็นแล้วว่ามันก็ยังมีปัญหา อย่างเช่นเกม เอฟเอ คัพ ระหว่าง แมนฯยูไนเต็ด กับ ฮัดเดิ้ลฟิลด์ ทาวน์ คือผู้ตัดสินทุกคนมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ ที่ข้อผิดพลาดมันสามารถเกิดขึ้นได้ แม้จะใช้เทคโนโลยีแล้วก็ตาม แต่ต้องเข้าใจว่าทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสีย เราก็พยายามหาข้อดีมาใช้ให้ได้มากที่สุด”
Photo : Fair
