ล่าสุด ทางด้าน หัวหน้าทีม ดิ อัซกาลส์ ปลุกแฟนบอลประเทศตัวเองให้เข้ามาให้กำลังใจพวกเขาเยอะๆ หลังเคยเห็นพลังของแฟนบอลไทยที่หนุนหลังทีมจนคว้าชัยชนะ
ส่วน ดิ อัซกาลส์ ได้รับบทบาทเป็นเจ้าภาพร่วมในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2016 โดยพวกเขาต้องอยู่ร่วมสายกับทีมอย่าง ไทย, สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย
“การได้เล่นในบ้านของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเราคุ้นเคยกับสภาพอากาศสภาพสนาม และเราก็ทำผลงานได้ดีในเกมฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่งทุกอย่างก็เห็นได้ชัด” กัปตัน ดิ อัซกาลส์ กล่าวเริ่ม
“ผู้เล่น,โค้ชและสต๊าฟฟ์ทุกคนต้องการแฟนบอล เราต้องการเสียเชียร์ เมื่อคุณลงสนามไปคุณต้องการความมั่นใจ และการเข้ามาชมเกมของแฟนบอลก็จะทำให้เราเหมือนมีผู้เล่นคนที่ 12 ซึ่งจะมีส่วนทำให้ผลงานเราออกมาได้ดี ผมคงผิดหวังหากไม่มีคนดูเข้ามาชมเกมมากๆ”
“จำเกมรอบรองชนะเลิศชิงแชมป์อาเซียนคราวที่แล้วได้ไหม เราเจอกับทีมชาติไทยเราเล่นในบ้านตัวเอง เราเสมอ 0-0 แต่พอเราต้องไปเยือนไทย เขามีกองเชียร์กว่า 60,000 คน กองเชียร์ช่วยกระตุ้นให้ทีมชาติไทยทำผลงานได้ดี เพราะฉะนั้นเมื่อเราได้เล่นในบ้านเราต้องกุมความได้เปรียบให้ได้”
“การแข่งขันซูซูกิ คัพ ถือเป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญ เพราะทัวร์นาเมนต์นี้ทำให้คนฟิลิปปินส์สนใจฟุตบอลมากขึ้น เพราะตั้งแต่ปี 2010 เราเข้ารอบรองชนะเลิศมาได้ตลอด ฟุตบอลฟิลิปปินส์คงไม่เป็นแบบนี้หากไม่มีการแข่งขันรายการนี้”
“แม้เราจะไม่เคยประสบความสำเร็จ แต่ผมคิดว่าเรามีโอกาสในฐานะเจ้าบ้าน เราจะต้องพยายามนำถ้วยซูซูกิ คัพมาตั้งที่ประเทศเราให้ได้”
และ ฟิลิปปินส์ มีโปรแกรมประเดิมสนามพบกับ สิงคโปร์ ในวันที่ 19 พฤศจิกายน ต่อด้วย อินโดนีเซีย ในวันที่ 22 พฤศจิกายน และจะพบกับไทย ในวันที่ 25 พฤศจิกายน โดยทั้งสามนัดจะแข่งที่สนามกีฬาแห่งชาติฟิลิปปินส์ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงมะนิลา