กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างมาก หลังมีข่าวลือว่า ทีมชาติไทย อาจจะเลือกส่งทีมชุด อายุไม่เกิน 19 ปี ไปลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน U23 ที่กัมพูชา ในเดือนกุมภาพันธ์นี้
การแข่งขันฟุตบอลรายการต่อไปที่กำลังจะจัดขึ้น ที่ ทีมชาติไทย ต้องเข้าร่วมการแข่งขันคือ รายการชิงแชมป์อาเซียน U23 และเนื่องด้วยกำหนดการจัดการแข่งขัน มีขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ ไทยอาจจะต้องส่งทีมรุ่น U19 ไปแข่งขัน
แฟนบอลฝั่งหนึ่งสนับสนุน เพราะมองว่าเป็นเรื่องดี ที่จะทำให้เด็ก U19 ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และยกระดับของตัวเองขึ้นมา และจะได้ไม่กระทบต่อตัวสโมสร ที่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถือเป็นช่วงที่เข้มข้นของการแข่งขันฟุตบอลลีก ตั้งแต่ 1-3
ขณะที่แฟนบอลอีกกลุ่ม แสดงความไม่เห็นด้วย และมองว่า เป็นการไม่ให้เกียรติการแข่งขันบ้าง เราคือไทย เราไปเล่นเราต้องเป็นแชมป์ ต้องประกาศศักดา ว่าเราคือเจ้าอาเซียนตัวจริง ไม่ว่าจะรุ่นไหน ก็ต้องคว้าแชมป์มาครองให้ได้
ขณะเดียวกัน หลายคนอาจจะมองหาความเป็นกลาง ให้หาตัวรองๆ ลงไปใน รุ่น U23 ที่สโมสรไม่ค่อยใช้งาน เรียกมาติดทีมชาติแทน
คำถามคือ มันควรเป็นจะออกมาหน้าไหนดี สำหรับการแข่งขันรายการนี้ และเราควรเลือกใช้ทีมชุดไหน อย่างไรถึงจะได้ประโยชน์
1. เลือกทีมชุด U19 ไป
แน่นอนว่าข้อดีคือ ทีมชุดนี้จะได้กระดูกเต็มๆ ได้เจอกับทีมที่แข็งแกร่ง ได้ทดสอบระดับว่าหากต้องเล่นข้ามรุ่นพวกเขาสามารถต่อกรในระดับไหนได้บ้าง และมันอาจจะเป็นการต่อยอด ไปสู่การเตรียมทีมในรายการสำคัญในช่วงกลางปีนี้ของทีมในรุ่นนี้ อย่างศึกชิงแชมป์อาเซียน U19 หรือ ศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกที่ส่งต่อไปรอบสุดท้าย และลุ้นถึง ฟุตบอลเยาวชนโลก
แต่ข้อเสีย แน่นอนว่ามันเป็นการข้ามรุ่น มันมีโอกาสสูงมากที่ไทย อาจจะต้องพ่ายต่อเวียดนาม ที่แฟนบอลไม่อยากให้แพ้ ไม่อยากแพ้ให้กับชาติที่ไม่ได้โด่งดังด้านฟุตบอล และมองว่าการแพ้จะทำให้เด็กเสียความมั่นใจเป็นต้น และมันมีโอกาสสูงมากที่จะไมได้เป็นแชมป์ และอาจจะเป็นตราบาปของนักเตะหลายคน ที่ถูกคนมองในระยะยาวว่า นักเตะจากทีมชุดนี้เคยแพ้ ทีมนี้มานะ เป็นต้น
2. เลือกชุด U23 ชุดเต็มไป
ข้อดีคือ ทำให้เรามีโอกาสเป็นแชมป์สูง แสดงการต่อยอดในการเรียกวิกฤตศรัทธาของฟุตบอลไทย หลังจากทีก่อนหน้านี้ทีมชุดใหญ่เพิ่งได้แชมป์อาเซียน จัดเต็มมาเลย เรียกนักเตะที่กำลังต้องการความมั่นใจมาติดทีมชาติอย่าง กฤษดา กาแมน, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร
ข้อเสียคือ แล้วถ้าหากนักเตะเหล่านี้ได้รับบาดเจ็บล่ะ มันจะทำให้เกิดปัญหาระยะยาวในรายการที่ใหญ่กว่า อย่างฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย และบางทีการได้เล่นในฟุตบอลระดับสโมสร ที่ต้องเจอกับ ผู้เล่นต่างชาติระดับโลก มันอาจจะช่วยให้ตัวพวกเขาพัฒนาได้มากกว่าหรือเปล่า นั่นคือคำถาม
อีกสิ่งที่ต้องถามต่อมา คือถ้าหากเราได้แชมป์อาเซียน เราจะสามารถอวดคนทั่วอาเซียนได้ไหมว่าเราคือจ้าวอาเซียนตัวจริง และอีกปัญหาก็คือ เราต้องเลื่อนไทยลีกหลบไหม เพราะรายการนี้ การแข่งขันไม่ได้ตรงกับฟีฟ่า เดย์ และสโมสรมีสิทธิ์ที่จะไม่ปล่อยตัวนักเตะมารับใช้ชาติได้ และจะมองว่าสโมสรเหล่านั้นไม่รักชาติอย่างนั้นหรือ ในเมื่อบางทีสโมสรก็มีมุมมองว่า หากนักเตะเล่นในลีก อาจจะพัฒนาเขาได้มากกว่าเล่นในชิงแชมป์อาเซียน
3. หาตัว U23 ที่สโมสรไม่ค่อยใช้งาน เรียกใครมาได้ ก็เอาไปใช้งาน
ข้อดีคือ เพือไม่ให้เกิดความบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น มองหาทางสายกลาง มีลุ้นความสำเร็จได้พัฒนาตัวนักเตะ ทำให้นักเตะบางคนได้มีโอกาสติดทีมชาติ ได้โอกาสพัฒนาตัวเอง บางคนอายุ 23 ปี แต่อาจจะไม่ค่อยได้รับโอกาสกับสโมสร ทำให้พอมาติดทีมชาติ เขาอาจจะกลับไปแล้วแข็งแกร่งขึ้นและก้าวมาเป็นตัวหลักของสโมสร
แต่ข้อเสียคือ ทุกอย่างมันดูกั๊กไปหมด เพราะขนาดสโมสรยังไม่ใช้งาน แล้วกลายเป็นว่าทีมชาติเรียกใช้งาน มันจะเป็นแบบไหน บางคนติดทีมชาติกลับไป เหลิงส่งผลเสียต่อสโมสรอีก การติดทีมชาติสำหรับบางคนมันมีค่า แต่บางคนมันอาจจะกลายเป็นตราที่เอาไว้แอ็ค เอาไปประดับโปรไฟล์ และมั่นใจตัวเองเกินไป จนทำลายอนาคตของตัวเอง ก็เป็นได้
และนี่คือสามทางเลือก ที่เราได้แบทั้งข้อดี และข้อเสีย ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกแบบไหน รับได้ไหมถ้าเราไมได้แชมป์อาเซียน U22 หรือถ้าเราเป็นแชมป์ จุดหมายต่อไปคืออะไร