ข่าวฟุตบอล ไทยลีกผิดจริยธรรมฟีฟ่า สารวัตรแห้ว ยื่นฟ้อง กกท. กรณี บิ๊กอ๊อด เจตนาซื้อเสียง
สารวัตรแห้ว
ผิดจริยธรรมฟีฟ่า
สารวัตรแห้ว

ผิดจริยธรรมฟีฟ่า สารวัตรแห้ว ยื่นฟ้อง กกท. กรณี บิ๊กอ๊อด เจตนาซื้อเสียง

“สารวัตรแห้ว” พ.ต.อ.ชัยทรัพย์ ธรัช ฤทธิ์เต็ม เดินหน้ายื่นหนังสือฟ้อง กกท. ระบุ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกลูกหนัง มีพฤติกรรมสัญญาว่าจะให้ หรือ “ซื้อเสียง” เพื่อจูงใจให้สโมสรสมาชิกลงคะแนนเลือกตัวเองกับพวกสภากรรมการให้ได้รับการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งผิดจริยธรรมฟีฟ่า เสื่อมเสียกีฬาชาติ ผิดข้อบังคับ และผิด พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทยอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ก็เป็นงงกับนโยบาย “เพรสซิเดนท์ ฟัน” ของนายกสมยศที่ให้เงินส่วนตัวสโมสรในลีกล่างยืมไปก่อนทีมละ 3 แสนบาท แล้วค่อยหักใช้คืนจากเงินอุดหนุนทีมภายหลัง ซึ่งถือเป็นการสร้างบุญคุณให้ตัวนายกต่อสโมสร ซึ่งไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง

ยิ่งใกล้วันประชุมใหญ่สามัญประจำปีสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่กำหนดขึ้นในวันศุกร์ที่ 28 เม.ย.นี้ ที่สโมสรตำรวจ วิภาวดีรังสิต เข้ามา ก็ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องต่างๆประดังประเดเข้ามาให้ผู้บริหารสมาคมลูกหนังต้องปวดหัว โดยการประชุมใหญ่ครั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้บรรจุวาระเพิ่มเติมให้สโมสรสมาชิกได้อภิปรายถึงปัญหาต่างๆ รวมทั้งชี้แจงข้อกล่าวหาการกระทำผิดข้อบังคับในช่วงของการบริหารงานสมาคมฯรอบปีที่ผ่านมา พ่วงด้วยเรื่องจริยธรรมนายกสมาคมฯเข้าไปด้วย

โดยล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา “สารวัตรแห้ว” พ.ต.อ.ชัยทรัพย์ ธรัช ฤทธิ์เต็ม อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เข้ายื่นหนังสือต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อร้องเรียนจริยธรรมนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ในช่วงระหว่างการตระเวนหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้ว

ซึ่งใจความในหนังสือร้องเรียนที่ส่งถึง กกท.ของ พ.ต.ท.ชัยทรัพย์ ธรัช ระบุว่า “บิ๊กอ๊อด” มีการกระทำเป็นสัญญาจะให้ (ซื้อเสียง) ในการเพิ่มเงินอุดหนุนให้สโมสรสมาชิก เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนเลือกตัวเองและพวกสภากรรมการบริหารสมาคมฯให้เข้าดำรงตำแหน่ง อันเป็นการผิดจริยธรรมฟีฟ่า และทำให้เสื่อมเสียประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เสื่อมเสียการกีฬาของชาติ ผิดข้อบังคับ และผิด พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย

นอกจากนี้ “สารวัตรแห้ว” ยังเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ในวันประชุมใหญ่ศุกร์นี้ตนก็จะเข้าไปร่วมอภิปรายนายกสมยศ และสภาลูกหนังด้วย โดยเฉพาะประเด็นล่าสุด ที่มีการผุดโครงการ “เพรสซิเดนต์ ฟัน” นายกสมาคมฯให้เงินส่วนตัวกับสโมสรในลีกล่าง ขอยืมไปหมุนเวียนสโมสรละ 3 แสนบาท จากนั้นเมื่อเงินอุดหนุนออกมาก็จะหักกลับคืนโดยไม่คิดดอกเบี้ยนั้น ตนมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำเพราะเปรียบเสมือนเป็นการไปเอาเงินที่ต้องจ่ายให้สโมสรอยู่แล้วมาให้ทีมหยิบยืม ซึ่งนั่นจะกลายเป็นว่าสโมสรสมาชิกทั้งหลายจะต้องเป็นหนี้บุญคุณกับทางนายกลูกหนังซึ่งไม่มีใครเขาทำกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก :