ล่าสุด เมื่อ ศูนย์หน้าทีมชาติอินโดนีเซีย ที่ถูกตัดชื่อออกจากทีมแต่เขาเชื่อว่าสิ่งที่ทีมชาติเขากำลังทำนั้น เหมือนสิ่งที่ทีมชาติไทยทำในครั้งก่อน
และ เซอร์จินโญ ฟาน ไดจ์ กองหน้าชาวอินโดนีเซีย รู้สึกเสียใจที่ไม่มีชื่อติดทีมชาติ แต่เข้าใจโค้ชที่ต้องการสร้างดาวรุ่งขึ้นมาในรายการเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ซึ่งเหมือนกับที่ทีมชาติไทยทำในการแข่งขันครั้งก่อน
ส่วนอัลเฟรด รีเดิ้ล ประกาศรายชื่อ 40 นักเตะ ก่อนตัดตัวเพื่อทำการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียน โดยไร้ชื่อของอดีตกองหน้าสุพรรณบุรี เอฟซี ที่ปัจจุบัน ค้าแข้งกับ เปอร์ซิบ บันดุง โดยให้เหตุผลว่านักเตะลูกครึ่งหลายคนนั้นยังทำได้ไม่ดีพอ และ อายุมากเกิน
“ผมเสียใจนะที่ไม่มีชื่อติดทีมชาติอินโดนีเซียในการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนครั้งนี้” ฟาน ไดจ์ กล่าวเริ่ม
“ผมเฉียดกับการเจอกับทีมชาติไทยหลายครั้ง เริ่มต้นจากเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 แต่ครั้งนั้นทีมของพวกเราต้องตกรอบแบ่งกลุ่ม ต่อมาคือฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่เราได้อยู่กลุ่มเดียวกับไทย แต่ด้วยปัญหาของสมาคมฟุตบอลทำให้ถูกฟีฟ่า แบนจนไม่สามารถลงแข่งขันได้ และครั้งนี้ก็ถือเป็นครั้งที่ 3 แล้ว”
“แต่ผมเข้าใจโค้ช (อัลเฟรด รีเดิ้ล) นะ เขาต้องการเลือกนักเตะดาวรุ่งไปเล่น เพราะเขาต้องการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ และสามารถพัฒนาต่อยอดไปได้ในอนาคต และดีกว่าเดิมที่เราเคยเป็น มันเหมือนกับที่ทีมชาติไทยได้ลองทำในการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ครั้งก่อน”
“แต่เท่าที่ผมได้ดูอินโดนีเซียชุดนี้ลงแข่ง พวกเขาดูเป็นทีมที่มีพลังแฝง พวกเขาทำได้ดีกว่าที่ผมคิด แต่ในการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ มันน่าจะหนักกว่าที่พวกเขาเล่นในเกมอุ่นเครื่อง เพราะคู่แข่งแต่ละทีมแข็งแกร่งกว่าและดูมีสมาธิมากกว่า”
“สำหรับผมไทยยังเป็นทีมที่ดีที่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาสร้างทีมขึ้นมาได้ดี และเล่นด้วยกันมานาน แต่ผมมองว่าถ้าอินโดนีเซียวางแผนได้ดี และรอโอกาส พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะคว้าผลลัพธ์ที่ดีออกมา”
ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2016 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดแรก ระหว่างทีมชาติไทย กับ ทีมชาติอินโดนีเซีย จะแข่งขันกันในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้
เนื้อหาข่าวจาก : Goal Thailand