ข่าวฟุตบอล ไทยลีกปรับโหด! เปิดกฎหมายล้มบอล กับ พ.ร.บ.กีฬาอาชีพ พ.ศ.2556
buaksib sport news
ไทยลีก
ปรับโหด!
ไทยลีก

จากกรณีที่ ตำรวจ พนักงานสืบสวนสอบสวน ออกหมายจับ  “ขบวนการล้มบอลไทยลีก” 12 ราย แข้งดัง 5 ราย กรรมการระดับฟีฟ่า รวมด้วย และ ผอ.สโมสร ศรีสะเกษ เอฟซี

โดยความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีการดำเนินการขจัดปัญหาเรื่องการกำหนดผลการแข่งขันฟุตบอลล่วงหน้า หรือการล็อกผลบอล ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยล่าสุดนี้เอง  พนักงานสืบสวนสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อขอศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 12 ราย ประกอบด้วย

นักฟุตบอลอาชีพ จำนวน 5 ราย

1.นายสุทธิพงษ์ เหลาพร นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี

2.นายณรงค์ วงษ์ทองคำ ผู้รักษาประตู ทีมราชนาวี เอฟซี

3.นายสุวิทยา นำสินหลาก นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี

4.นายเสกสันต์ ชาวทองหลาง นักฟุตบอลทีมราชนาวี เอฟซี

5.นายวีระ เกิดพุดซา ผู้รักษาประตู ทีมนครราชสีมา มาสด้าเอฟซี

กรรมการผู้ตัดสิน 2 ราย

1.นายภูมรินทร์ คำรื่น  (กรรมการระดับฟีฟ่า)

2. นายธีรจิตร สิทธิศุข (ไลน์แมน)

ผู้อำนวยการสโมสร 1 ราย 

นายเชิดศักดิ์ บุญชู ผู้อำนวยการสโมสรศรีสะเกษ เอฟซี

กลุ่มนายทุนหรือตัวแทนนายทุน 4 ราย

1.นายวัลลภ สมาน

2.นายกิตติภูมิ ปาภูงา

3.นายมานิตย์ หรือ เศรษฐปสิทธิ์ โกมลวัฒนะ

4.นายภาคภูมิ พันธ์นิกุล

จากการสอบสวน ได้มีการยอมรับสารภาพว่าได้รับเงินจากตัวแทนให้การแข่งขันล็อคผลสกอร์จริง นำมาสู่การขยายผลและพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยได้ยื่นต่อศาลอาญา รัชดาภิเษก เพื่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกับการล้มบอลซึ่งมี 12 รายด้วยกัน

โดย  ข้อมูลจาก พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ (พ.ร.บ.กีฬาอาชีพ) พ.ศ.2556 ที่ว่าด้วยการกระทำผิดส่วนดังกล่าวอยู่ในส่วนที่ 2 โทษอาญา ประกอบด้วย

มาตรา 64  ผู้ใดให้ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่นักกีฬาอาชีพหรือผู้อื่น เพื่อจูงใจให้นักกีฬาอาชีพกระทําการล้มกีฬา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี

หรือปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

มาตรา 65 ผู้ใดเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นเพื่อให้มีการกระทําการล้มกีฬา ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

มาตรา 66 ผู้ใดให้ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ผู้ตัดสินหรือผู้อื่นเพื่อจูงใจให้ผู้ตัดสินทําหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขัน

หรือทําหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน  5 ปีหรือปรับตั้งแต่ 200,000-500,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

มาตรา 67 ผู้ตัดสินใดเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อทําหน้าที่ตัดสินไม่เป็นไปตามระเบียบหรือกติกาการแข่งขันหรือทําหน้าที่ตัดสินอย่างไม่ถูกต้องเที่ยงธรรม

ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 1-10 ปีหรือปรับตั้งแต่ 300,000-600,000 แสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

 

buaksib sport newsbuaksib sport news