เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 ที่ผ่านมา ณ โรงแรม โซฟิเทล โพคี ธารา กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า จัดการประชุม ฟีฟ่า ซัมมิท ประจำปี 2018 ขึ้น
การประชุมดังกล่าว นำโดย จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ พร้อมด้วย สภากรรมการ โดย พล.ต.ท. พิสัณห์ จุลดิลก พร้อมด้วย พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ ได้เป็นตัวแทน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในการประชุมครั้งนี้
สำหรับการประชุม FIFA Summit 2018 มีประเด็นนำเสนอดังต่อไปนี้
1. เพิ่มจำนวนชาติในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนโลก จากเดิม 24 ชาติ เป็น 48 ชาติ ในประเภทชาย และจาก 16 ชาติ เป็น 24 ชาติ และจัดการแข่งขันเพียงรุ่นเดียว (อาจเป็นรุ่นอายุไม่เกิน 18 หรือ 19 ปี) พร้อมกับปรับความถี่ในการจัดแข่งขันเป็นรายปี
2. สนับสนุนให้ชาติที่ไม่เคยมีประสบการณ์จัดการแข่งขันฟุตบอลระดับเยาวชนโลก จับมือเป็นพันธมิตรเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมกันสูงสุด 4 ประเทศ เพื่อให้พร้อมสำหรับเรื่องคมนาคม, สาธารณูปโภค ตามมาตรฐานที่ฟีฟ่ากำหนดไว้
3. จัดการแข่งขัน Women’s World League ในช่วงฟีฟ่าเดย์ เพื่อยกระดับฟุตบอลหญิงและลดความเหลื่อมล้ำของฝีเท้าในแต่ละชาติ พร้อมทั้งเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนสนใจฟุตบอลหญิง รวมถึงกระตุ้นการพัฒนาเชิงธุรกิจ
4.โครงการ FIFA Forward Programme จะเพิ่มงบประมาณสนับสนุนในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของแต่ละสมาคมฯ จากเดิม 500,000 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 15.6 ล้านลาท) เป็น 750,000 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 23.4 ล้านบาท) เพื่อให้ครอบคลุมถึงการจัดการแข่งขันภายในประเทศนั้นๆ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบในส่วนของการให้เงินสนับสนุนในโครงการพิเศษ (Special Project) จากเดิมที่จะมีการสนับสนุน 750,000 เหรียญสหรัฐต่อปี (ราว 23.4 ล้านบาท) เป็น 2,000,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 62.5 ล้านบาท) ตลอดช่วงระยะเวลา 4 ปี โดยประเทศสมาชิกสามารถขอเงินสนับสนุนดังกล่าวมาใช้ในช่วงเวลาใดก็ได้ภายในระยะเวลา 4 ปี โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่ปี 2019 จนถึงปี 2022
จากข้อเสนอดังกล่าว จะมีการลงมติอนุมัติในการประชุมสภากรรมการ FIFA Council ในช่วงเดือนมิถุนายน ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย และหากผ่านมติของสภากรรมการฟีฟ่า จะมีการนำมาใช้ในปี 2020 ต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : FA Thailand