ข่าวฟุตบอล“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ในวันที่ใครก็ยากที่จะหยุด
buaksib sport news
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

การยืนหนึ่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมสถิติไร้พ่าย แสดงให้เห็นถึงความไร้เทียมทานของพวกเขา และถือเป็นการสานต่อจากฤดูกาลก่อนที่ได้สามแชมป์ และคำถามคือปีนี้ ใครจะหยุดพวกเขาได้

ฟุตบอลไทยลีก เดินหน้ามาจนใกล้จะจบเลกแรก ในขณะที่กลางตารางผลัดกันขึ้นผลัดกันลง โซนสีแดง ก็กำลังเดินหน้าเก็บแต้มเพื่อหนี แต่หัวตาราง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่พอยืดได้ พวกเขากลับยืนตระหง่านอย่างมั่นคง

สถานการณ์หลังผ่านไป 12 นัด พวกเขากลายเป็นทีมเดียวที่ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น พร้อมครองสถิติยิงประตูได้มากที่สุดที่ 31 ประตู เฉลี่ยแล้ว พวกเขายิงได้เกือบ 3 ประตู ต่อนัด

ในขณะเดียวกัน ขุมกำลังของทีมก็เริ่มมีความยืดหยุ่นมากขึ้น และตัวสำรองหลายคนก็แสดงให้เห็น ว่าสามารถทดแทนตัวจริงได้ ยกตัวอย่าง นพพล ละครพล ที่ก้าวขึ้นมาแทนที่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน รวมถึงนักเตะหลายคนที่สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง และหมุนเวียน จนสร้างความสับสนให้กับทีมที่จะมารับมือ

– ป้อมปราการ ปราสาทสายฟ้า

คำกล่าวที่ว่า เกมรุกจะทำให้คุณชนะ แต่เกมรับจะทำให้คุณเป็นแชมป์ แม้บุรีรัมย์ จะเก็บคลีนชีต ได้แค่สามนัด ก็จริงแต่พวกเขาก็สามารถทดแทนด้วยเกมรุกที่มีความหลากหลายและยิงประตูได้ในทุกนัด มันเลยอาจจะเป็นแนวทางของพวกเขาในปีนี้

แต่หลายครั้งเกมรับของพวกเขาก็แสดงให้เห็นว่าเมื่อพวกเขาต้องการเน้นผลสกอร์พวกเขาก็สามารถทำได้เช่นกัน ยิ่งด้วยระบบของ มาซาทาดะ อิชิอิ พวกเขามีความยืดหยุ่นสูงมาก ซึ่งแม้กองหน้าตัวหลักของพวกเขาอย่าง โจนาธาน โบลินกิ จะยิงประตูได้น้อยมากหากเทียบกับปีก่อน แต่ก็ยังสร้างประโยชน์ และช่วยทีมได้เยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นเกมรับจากแดนบน รวมถึงการเก็บบอลเป็นต้น

– ตัวแปรสำคัญที่ชื่อว่า โกรัน เคาซิช

หลังจากที่จบเกมแรก ไปแบบฝันร้ายสำหรับ โกรัน เคาซิช หลังโดนใบแดง และทีมก็ต้องแพ้ต่อบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในศึก ไดกิ้น ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนคัพ

แต่หลังจากเปิดไทยลีกมา การปรับตัวและหลายอย่างก็เริ่มดีขึ้น จนตอนนี้เขาถูกขนานนามว่า กองหน้าที่เล่นกองกลางได้นิดหน่อย จากสถิติ การยิง 9 ประตูจาก 12 นัด พร้อมนำโด่งเป็นดาวซัลโวในตอนนี้

นอกจากนี้ยังทำสถิติวิ่งต่อเกมมากที่สุด เพราะเล่นทั้งรุกและรับ จนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่บุรีรัมย์ จะขาดไม่ได้แล้ว หลังก่อนหน้านี้ ทีมเคยมีปัญหาในตำแหน่งกองกลางตัวต่างชาติอย่างมาก นับตั้งแต่หมด ยุคของ โก ซุล กิ ไป และเขาได้ก้าวมาเติมเต็ม ซ้ำยังมี ธีราทร บุญมาทัน ที่หุบเข้ามาในบางเกม หรือบางเกมก็ ไปเล่นเป็นแบ็คซ้ายและก็ทำได้ดี จนทำให้ ฝ่ายตรงข้ามยากที่คาดเดา

– การหมุนเวียนนักเตะในทีม

ณ ตอนนี้ บุรีรัมย์ ได้ใช้นักเตะไปแล้วทั้ง 23 ราย จาก 12 เกมแรกของไทยลีก แสดงให้เห็นว่าขุมกำลังสำรอง สามารถทดแทนกันได้ในบางเกม และยิ่งนักเตะหลายคน สามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง ยกตัวอย่าง รัตนากร ใหม่คามิ ที่เป็นได้ทั้งกองหลังและกองกลาง หรือ ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่เล่นได้ทั้งแบ็ค และตัวรุก รวมถึงกองกลาง เช่นเดียวกับ ธีราทร

มันเลยทำให้ ทีมเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง และด้วยสถานการณ์อันดับในตาราง มันยากมากที่ใครจะไล่ตามพวกเขา หลังจากที่ก้าวไปยืนจ่าฝูง ณ ตอนนี้

– เส้นทางยังอีกยาวไกล

แน่นอนว่าหลายคนยังมองว่าเส้นทางยังอีกยาวไกล สำหรับการลุ้นแชมป์ไทยลีก ฤดูกาลนี้ เพราะยังเหลือเกมให้เตะอีก 60 เปอร์เซ็นต์ แต่ด้วยดีกรี และประสบการณ์ของนักเตะ ทำให้มันยากมาก กับการที่จะเอา บุรีรัมย์ ลงจากหัวหาด

เพราะมันคงยากที่จะเห็น บุรีรัมย์ สะดุดหลายนัดติดต่อกัน ยิ่งตอนนี้เครื่องของพวกเขาติด ความยืดหยุ่นในทีมมีสูง จะต่อบอลก็ได้ เล่นบอลแบบโบราณก็ได้ จะโยนโหม่งก็มีกองหน้าตัวสูงสองคน หรือจะเจาะตรงกลางก็มี โกรัน อีก

บุรีรัมย์ ตอนนี้เป็นทีมที่ยากจะหยุด ช่วงเวลาที่เหลืออาจจะมีบ้างที่พวกเขาสะดุด แต่เห็นได้ชัดว่า ณ เวลานี้พวกเขายืนได้อย่างแข็งแกร่งจริงๆ และแนวรับตอนนี้ก็เริ่มเก็บคลีนชีตได้แล้ว หลัง สิบเกมแรกพวกเขาเก็บได้แค่เกมเดียว

มันเลยเป็นคำถามที่ว่า ใครจะหยุดบุรีรัมย์ได้

buaksib sport newsbuaksib sport news