“เดอะ แรบบิท” บางกอกกล๊าส เอฟซี คว้าต้ว “เอ๋” พิศาล ดอกไม้แก้ว นายทวารตัวเก๋าวัย 32 ปี จาก ชัยนาท ฮอร์นบิล มาร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว เพื่อสู้ศึกฤดูกาล 2017 โดยจรดปากกาเซ็นสัญญาค้าแข้งอยู่ในรังลีโอ สเตเดี้ยม เป็นเวลา 2 ปี
ทีม “เดอะ แรบบิท” บางกอกกล๊าส เอฟซี ยักษ์ใหญ่ในศึกฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก เตรียมความพร้อมสำหรับสู้ศึกในฤดูกาล 2017 ด้วยการคว้า พิศาล ดอกไม้แก้ว นายทวารจอมเก๋าวัย 32 ปี จาก ชัยนาท ฮอร์นบิล มาร่วมทีมเรียบร้อยแล้ว เพื่อสู้ศึกฤดูกาล 2017 โดยเซ็นสัญญาค้าแข้งอยู่ในรังลีโอ สเตเดี้ยม เป็นเวลา 2 ปี ทำให้นายทวารจอมเก๋ารายนี้กลายเป็นนักเตะคนที่ 4 ต่อจาก บิล สีดา, เชาว์วัตน์ วีระชาติ และ อรรถวิท สุขช่วย ที่ย้ายมาร่วมทัพ บีจี ซึ่งนายด่านมากประสบการณ์ได้ทำการถ่ายภาพและเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับทีม บีจี ร่วมกับ ออเรลิโอ วิดมาร์ เฮดโค้ช เรียบร้อยแล้ว ที่สนามลีโอ สเตเดี้ยม เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา
โดยนายทวารคนใหม่ของทีม บีจี กล่าวว่า “การย้ายมาร่วมทีม บีจี ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ เพราะว่า บีจี เป็นทีมใหญ่ที่มีอนาคต ผมเคยเล่นทีมใหญ่มามากมาย แต่การย้ายมาที่นี่ถือเป็นความท้าทายใหม่ เนื่องจากทีมมีการจัดการที่ดีและมีแฟนบอลที่หนาแน่น เลยตัดสินใจตอบรับข้อเสนอ และได้มาพิสูจน์ให้แฟนบอลได้เห็น ทำให้ได้ย้ายมาที่นี่”
“เป้าหมายส่วนตัวคือการพิสูจน์ตัวเอง ให้ทีมงานและสต๊าฟฟ์ รวมไปถึงแฟนบอล ได้เห็นศักยภาพของเราก่อน ผู้รักษาประตูหนึ่งเกมสามารถลงสนามได้คนเดียว ดังนั้นต้องมีผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดลงสนาม การมาของผมคือการมาพิสูจน์ศักยภาพของตัวเอง และเบียดคนเก่าให้ได้ครับ”
“ส่วนเป้าหมายกับทีม ผมอยากคว้าแชมป์ไทยลีกสักครั้งหนึ่งกับชีวิตการค้าแข้งของผม ซึ่ง 10 ปี บนเส้นทางไทยลีก ผมยังไม่เคยคว้าแชมป์ได้เลย ผมขอฝากเนื้อฝากตัว ผมเป็นนักเตะใหม่ของ บางกอกกล๊าส และอยากทำผลงานให้ดีที่สุด อยากจะสร้างผลงานที่แฟนบอลคาดหวังว่าจะได้เห็นผลงานทีมประสบความสำเร็จ ผมหวังว่าปีหน้าจะเป็นปีของ บางกอกกล๊าส ครับ” พิศาล กล่าวปิดท้าย
สำหรับ พิศาล ดอกไม้แก้ว เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับ นครปฐม เอฟซี ในระดับโปรลีก ก่อนจะย้ายมาเล่นให้ทีมบ้านเกิดอย่าง สุพรรณบุรี เอฟซี จากนั้นในปี 2008 ได้ย้ายมาสร้างชื่อกับ บีอีซี เทโรศาสน พร้อมรับใช้ต้นสังกัดแห่งนี้ไปมากกว่า 100 นัดในระยะเวลา 6 ฤดูกาล หลังจากนั้นปี 2014 เจ้าตัวได้ย้ายไปร่วมทีม แบงค็อก ยูไนเต็ด แต่ปีถัดมาก็ถูกยืมตัวไปร่วมทีม โอสถสภาเอ็ม-150 สระบุรี พร้อมกับช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการตกชั้นในบั้นปลายได้สำเร็จ จากนั้นในปี 2016 ได้ย้ายไปร่วมทีม ชัยนาท ฮอร์นบิล ก่อนที่จะถูกทีม บีจี คว้าตัวมาร่วมทีมลุยศึกในฤดูกาล 2017
ข้อมูลจาก : Bangkok Glass FC – สโมสรฟุตบอลบางกอกกล๊าส