สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ได้ประกาศเลือก 3 ประเทศจากสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และแคริบเบียน (คอนคาเคฟ) ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ปี 2026
โดยในการประชุม ฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 68 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ได้มีวาระสำคัญคือการโหวตเลือกประเทศที่จะเป็นเจ้าภาพในอีก 2 สมัยข้างหน้า ซึ่ง 3 เจ้าภาพร่วมอันประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก ได้รับการลงมติเป็นเอกฉันท์ 134 เสียง ส่วนโมร็อกโก ซึ่งเป็นอีกชาติที่เสนอตัวในครั้งนี้ได้รับการโหวตไปทั้งสิ้น 65 เสียง
สำหรับทางด้านของ พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็น 1 ในเสียงที่เลือก 3 ชาติจากทวีปอเมริกาเหนือด้วยเช่นกัน
“เราเลือกจากรายงานการตรวจความพร้อมของฟีฟ่า ซึ่งให้คะแนนโดยรวมกับโมร็อกโกที่ 2/5 ขณะที่ 3 ชาติเจ้าภาพร่วมได้ 4/5 คะแนน ส่วนเรื่องความพร้อมของสนามแข่ง โมร็อกโก
ต้องสร้างใหม่อีก 9 สนาม ขณะที่ อเมริกา มีครบครัน นอกจากนี้ในส่วนของรายได้ที่การันตีให้กับฟีฟ่า ทั้ง 3 ประเทศสามารถการันตีให้ได้ 1.1 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ แต่โมร็อกโกให้ 7 พันล้าน”
“ซึ่งรายได้ของฟีฟ่า จะกลับคืนมาสู่ประเทศสมาชิกในเรื่องของการบริหารจัดการและโครงการพัฒนาต่างๆ ในอนาคต เนื่องจากการพัฒนาวงการฟุตบอลด้านต่างๆ ต้องได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอ”
“อีกประการก็คือการที่ 3 ประเทศนี้รวมตัวกันเป็นเจ้าภาพร่วม ทำให้ในอนาคต ประเทศเล็กๆ มีโอกาสมองถึงการเป็นเจ้าภาพร่วมในอนาคตได้เช่นกัน”
“ซึ่งเหตุผลทั้งหมดทั้งมวลนี้ เกิดขึ้นโดยคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับฟุตบอลโลกในภายภาคหน้าเป็นหลัก”
โดยก่อนหน้านี้ จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ได้ออกมาสนับสนุนให้หลายชาติจับมือกันยื่นข้อเสนอขอเป็นเจ้าภาพร่วม หลังจากที่ประกาศให้มีการเพิ่มทีมในรอบสุดท้ายจาก 32 เป็น 48 ทีมในอนาคต เพื่อรองรับขนาดของการจัดการแข่งขันที่ใหญ่ขึ้น