“บิ๊กอ๊อด” ยัน “โค้ชเฮง” ยังทำหน้าที่ต่อ พร้อมแจงเรื่องบทบาทฝ่ายเทคนิค

นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “เรื่องตำแหน่งของ คุณวิทยา เลาหกุล เรามีการพูดคุยกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ช่วงฟุตบอลโลก ซึ่งคุณวิทยา เลาหกุลเองก็เข้าใจดี เขาก็ออกตัวว่าไม่มีเวลาในการกำกับดูแลทีมชาติครบทุกรุ่น จึงจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้าง หรือทำความเข้าใจบทบาทกันใหม่ ซึ่งคุณวิทยา เลาหกุลยังคงดำรงตำแหน่งอุปนายกฝ่ายเทคนิคและทำหน้าที่ดูแลฝ่ายเทคนิคต่อไป จะลงลึกและให้ความสำคัญกับเยาวชนมากขึ้น”

“ผมจะสร้างความต่อเนื่องให้กับเยาวชน เพื่อวันข้างหน้าเป็นนักกีฬาอาชีพให้กับสโมสรต่างๆ และสุดท้ายหากใครที่มีความสามารถมากพอก็ขึ้นมาเป็นทีมชาติได้ในอนาคต คุณวิทยาก็จะต้องดูตั้งแต่ต้นน้ำ ตั้งแต่อายุ 10 ปีขึ้นไป จนถึง 16 แล้วไปสู่การเป็นมืออาชีพสังกัดสโมสรต่างๆ”

“สมาคมฯมีวิสัยทัศน์ อยากทดลองว่า ถ้าเรามีทีมเยาวชนตั้งแต่ 10 ขวบเป็นต้นไป แล้วเด็กเหล่านี้ไม่มีสังกัดสโมสรแต่มีคุณภาพ เด็กเหล่านี้อยู่ในกฎระเบียบ มาตรฐานเดียวกับประเทศที่เจริญแล้วในวงการฟุตบอล พวกเขาจะสามารถพัฒนาไปได้แค่ไหน เช่นด้านร่างกาย ทักษะความสามารถ ที่สำคัญคือ เรื่องทัศนคติ, ระเบียบ สอนให้เด็ก คิดเป็น กินอยู่หลับนอน เเบบนักกีฬาที่มีระเบียบ จากการที่ได้ไปดูงาน เรื่องของทัศนคติฟุตบอล วิธีการวางตัว กฎระเบียบ เขาไม่ได้สร้างตอนอายุเยอะแล้ว แต่เขาสร้างตั้งแต่ตอนเด็ก ผมพึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งได้ 2 ปี ผมไม่มีโอกาสพัฒนาเด็ก เพราะส่วนใหญ่เขาเป็นนักกีฬาอาชีพไปแล้ว”

“เราสร้างขึ้นมาไม่ได้ไปแข่งกับสโมสร แค่เพียงต้องการทดลองว่าถ้าเราทำตามหลักประเทศที่มีเจริญแล้ว เด็กไทยจะเท่าเทียมเขาหรือไม่ นั้นคือประเด็นที่สำคัญ และที่สำคัญกว่านั้นคือเราได้สร้างแรงบรรดาใจให้กับเด็กๆ เหมือนที่ส่งนักฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ไปสเปน ชุดนั้นไม่ได้บอกว่าทีมนั้นจะได้ไปบอลโลกรอบสุดท้ายในปี 2026 เหมือนกับที่คุณ วิทยา พูดคงไม่ใช่ชุดนี้ทั้งหมด แต่ต้องเป็นทีมผสมผสาน ถ้าบอกทีมที่สเปนเป็นทีมหลักประมาณ 4-5 คน ก็ต้องมีทีมอื่นผสม ในวันข้างหน้า และจะเปิดโอกาสให้เด็กที่ต่ำกว่า 16 ปีที่เก่งก็สามารถมาเล่นได้ ไปผสมผสานกันไป เราต้องสร้างตั้งแต่ วันนี้ เพราะโอกาสมาถึงประตูเปิดกว้างมากขึ้น ถ้าเราไม่สร้างวันนี้เราก็จะตกรถไฟ นี่คือสิ่งที่เราคุยกัน ส่วนคุณวิทยาจะได้มาสร้างและพัฒนาเด็ก ดูแลเด็กอย่างเต็มที่”

“ตำแหน่งผู้อำนวยการ ที่จะเข้ามาเพิ่มเขาไม่ได้มาสนับสนุนทีมชาติในเรื่องการซ้อม,การเล่น แต่เขามีหน้าที่มาศึกษาข้อมูล สถิติวิเคราะห์ ความสามารถนักกีฬาไทย คู่ต่อสู้ เขาเป็นคนประเมินในส่วนนี้ เรื่องในสนามเป็นหน้าที่ของโค้ช แต่คนนี้ จะเข้ามาดูแลเรื่องสถิติ โค้ชจะมาใช้ข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการเรียกตัวนักกีฬามาติดทีมชาติ เราต้องพูดคุยกัน หารือร่วมกัน ในสมัยผมใช้วิธีพูดคุยกัน ทำความเข้าใจ ไม่มีความขัดแย้ง คิดว่าสิ่งที่เราปฏิบัติตามในวันนี้เป็นไปตามนโยบายสมาคมฯ”

ขอบคุณ Fair