เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่ นนท์ ม่วงงาม ตัดสินใจ ออกจาก Comfort Zone เพื่อเลือกมาเผชิญหน้ากับความท้าทายครั้งใหม่ในชีวิตที่ประเทศไทย จากผู้รักษาประตูดาวรุ่งของน็องซี่ ในฝรั่งเศส สู่การเป็น นายด่านของทีมชาติไทยรุ่นเล็ก ที่เจ้าตัวยึดมือหนึ่งได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเผชิญกับหลายสิ่งมากมาย ทั้งช่วงเวลาที่ดี และ ไม่ดี โดย นนท์ ม่วงงาม กล่าวว่า
“มันก็เป็นประสบการณ์มากมาย ผมเจอกับหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของการใช้ชีวิต ที่แตกต่างจากเดิมมาก”
“จากจุดเริ่มต้น ผมเริ่มกับเชียงราย ก็ต้องเปลี่ยนมาอยู่กรุงเทพ และปีนี้ก็ต้องย้ายไปอยู่เชียงใหม่ มันก็ดีนะ เพราะผมต้องอยู่คนเดียว มันก็ต้องดูแลตัวเอง และต้องโตขึ้น”
“มันแตกต่างกันเยอะนะ ที่ฝรั่งเศส ผมมีแม่คอยช่วยเหลือทุกอย่างที่ผมต้องการ แต่ตอนนี้ผมต้องช่วยเหลือตัวเองทั้งหมด แต่ทุกปีผมก็ต้องกลับไปหาแม่ที่ฝรั่งเศส”
มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนหนึ่งคน ที่ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิต ภาษา วัฒนธรรม การกิน
“ผมยังจำวันแรกที่ผมลงสนามบินสุวรรณภูมิได้เลย ผมคิดเลยว่า ผมมาทำอะไรที่นี่ ผมตัดสินใจถูกแล้วใช่ไหม มันตัดสินใจยากมากจริงๆ”
“เรื่องอื่นๆตอนนี้ผมก็เริ่มปรับตัวได้หมดแล้ว ภาษาไทย ผมก็ฟํง พูด เข้าใจทั้งหมด ตอนนี้ก็กำลังวางแผนที่จะเรียนเรื่องการเขียน การอ่าน”
แต่ตลอดสามปี ก็มีน้ำทิพย์ชโลมใจที่คอยช่วยให้ ตัวของผู้รักษาประตูวัย 22 ปี สู้มันต่อ รวมถึงช่วงเวลาที่ยากลำบาที่ต้องฟันฝ่า
“ช่วงเวลาที่ดีก็มีหลายอย่าง ถ้าเลือกที่ดีที่สุด ก็คงเป็นการได้เหรียญทองซีเกมส์ เพราะมันคือความภูมิใจที่สูงที่สุด ว่าอย่างน้อยครั้งหนึ่ง ผมสามารถช่วยให้ทีมชาติประสบความสำเร็จได้ และยังคงจำมาถึงทุกวันนี้”
“ส่วนช่วงที่แย่ที่สุดก็คงเป็นช่วงเวลาที่เหงา คิดถึงแม่ อยากจะกลับบ้าน แต่ก็ยังโชคดี ผมต้องขอบคุณเพื่อนๆทุกคน รวมถึงผู้ใหญ่ที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา”
กับการแข่งขันในรอบปีนี้ หลายคนต่างคาดหวังว่า ผู้รักษาประตูจากเชียงใหม่ เอฟซี จะถูกวางเป็นมือหนึ่ง หลังจากที่ได้รับโอกาสอย่างต่อเนื่องในทีมชุดนี้ ตลอดสองปีที่ผ่านมา
“ผมไม่ได้กดดัน ผมแค่ต้องการทำให้ดีที่สุด และต้องการเป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะและประสบความสำเร็จให้ได้ เท่านั้นมันก็น่าพอใจ”
“ผมก็พยายามซ้อม และทำผลงานให้ดีที่สุด มันมีหลายช่วงที่ผมยอมรับเลยว่า ผมทำได้ไม่ดี แต่ผมก็พยายามพัฒนาตัวเอง มองข้อผิดพลาดของตัวเอง ซ้อมให้หนักกว่าเดิม”
“การแข่งขันรายการนี้ก็เป็นรายการใหญ่ ก็ต้องพยายามทำผลงานที่ดีออกมา เพื่อสร้างความมั่นใจในทีม ทีมชุดนี้มีนักเตะที่ดีหลายคน บางคนอาจจะบอกว่าการไปครั้งนี้ก็แค่การลองทีม แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น ผมอยากไปเพื่อชนะ เพื่อต่อยอดไปรอบสุดท้ายให้ได้”
“ผมเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับรอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชีย มาแล้วที่จีน แต่ผมไม่กลัว เพราะมันผ่านไปแล้ว และผมก็จำเพื่อนำมันมาเป็นบทเรียน เพื่อพัฒนาตัวเอง”
ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะเก็บตัวที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพนักกีฬาภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ไปจนถึงวันที่ 20 มีนาคม 2562 และจะเดินทางไปกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เวลา 17.00 น. ต่อไป
การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก ทีมชาติไทย อยู่กลุ่ม เค ร่วมกับ เวียดนาม, อินโดนีเซีย และ บรูไน
โดยโปรแกรมการแข่งขันทีมชาติไทย U23 ในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มีดังนี้
ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินโดนีเซีย ที่สนาม มีดินห์ สเตเดียม วันที่ 22 มีนาคม 2562 เวลา 17.00 น.
ทีมชาติบรูไน พบ ทีมชาติไทย ที่สนาม มีดินห์ สเตเดียม วันที่ 24 มีนาคม 2562 เวลา 17.00 น.
ทีมชาติเวียดนาม พบ ทีมชาติไทย ที่สนาม มีดินห์ สเตเดียม วันที่ 26 มีนาคม 2562 เวลา 20.00 น.
โดยทุกนัดที่ทีมชาติไทยทำการแข่งขัน จะถ่ายทอดสดทาง PPTV HD ช่อง 36