“ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด” กับการสลัดคำว่าทีมที่เกือบจะสำเร็จ

ชัยชนะของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เหนือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทำให้หลายคนมองว่าพวกเขามีลุ้นแชมป์เต็มตัว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนกังวลว่า สุดท้ายเดี๋ยวมันก็จะเข้าอีหรอบเดิม

นับตั้งแต่เปลี่ยนชื่อจาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มาเป็น แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เตะที่สนาม ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง จนมาถึง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ย้ายมาเตะที่ ม.ธรรมศาสตร์ พวกเขายังไม่เคยสัมผัสแชมป์รายการไหนเลย จนหลายคนมองว่า พวกเขากลายเป็นทีมที่ได้ลุ้น มากกว่าที่จะได้รับ

ตลอดช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แบงค็อก สร้างความฮือฮา ได้เสมอ ทั้งในสนาม รวมถึง นอกสนาม ทั้งการเสริมทัพ รวมถึงผลงานในหลายๆครั้ง

แต่สิ่งที่ทุกคนจดจำมากที่สุด กลับเป็นภาพของทีมที่ยิ่งใหญ่ แต่ทำได้แค่เกือบอยู่เสมอ เพราะตลอดช่วงที่ผ่านมา พวกเขาทั้งเกือบจะได้แชมป์ไทยลีก เกือบจะได้แชมป์บอลถ้วย แต่สุดท้ายพวกเขาก็เป็นได้แค่เกือบเท่านั้น

– ออกสตาร์ทอย่างแจ๋ว และสิ้นสุดด้วยน้ำตา

มันกลายเป็นภาพจำเกือบทุกปี ของแบงค็อกไปแล้ว ที่ออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยม เกาะกลุ่มหัวตาราง สร้างเซอร์ไพรส์ ล้มทีมใหญ่ๆ แต่สุดท้าย พอถึงช่วงกลางหรือท้ายฤดูกาล พวกเขากลับเป๋เสียอย่างนั้น เจอทีมเล็กก็แจกแต้ม เจอทีมใหญ่ก็สู้ไม่ได้ ทั้งที่ในเลกแรก พวกเขาสามารถเอาชนะหรือไล่ต้อนได้แบบสบาย

จากภาพจำดังกล่าว ทำให้หลายคนไม่กล้าคาดหวังที่จะเห็น แบงค็อก ประสบความสำเร็จ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้หลายคนกลัวว่า ถ้าคาดหวังสูง พอตกลงมามันก็จะเจ็บปวดหลายเท่า เพราะฉะนั้นขอคาดหวังแบบไกลๆ เท่านั้นก็คงเพียงพอ

– การเข้ามาของ ออเรลิโอ วิดมาร์

การเข้ามาของ วิดมาร์ ณ ตอนนี้ ทำให้หลายคนยังคงแอบคาดหวังลึกๆ ในการประสบความสำเร็จ แต่มันก็ยังลึกๆ เท่านั้น เพราะในช่วงแรก พวกเขาเองก็เคยคาดหวังกับ โค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน ที่เข้ามาในช่วงก่อนหน้านี้ และเลกแรกพวกเขาก็สร้างความฮือฮา แต่สุดท้ายเลกสองทีมกลับแผ่วไปแบบน่าใจหาย

เพราะฉะนั้น สิ่งที่วิดมาร์ ต้องทำนอกจาก เรื่องของการวางแท็คติกในสนามแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญคือเรื่องการเตรียมสภาพจิตใจ โดยเฉพาะการโดนกดดันสูงๆ ยามลงเล่นในแมตช์สำคัญ หรือ ช่วงเวลาที่จะต้องตัดสินแชมป์

เพราะหากมองถึงขุมกำลัง และคุณภาพของนักเตะ แน่นอนว่า แบงค็อก ไม่ได้เป็นรองใครเลย หากเทียบกับ ทีมที่มีลุ้นแชมป์ในปีนี้อีกหลายทีมทั้ง บุรีรัมย์, ชลบุรี, ราชบุรี บีจี รวมถึงการท่าเรือ

– บทพิสูจน์ที่แท้จริง

แน่นอนว่าสำหรับเกมลีก ต้องดูกันยาวๆ แต่ สำหรับแบงค็อกแล้ว พวกเขาเป็นเหมือนทีมที่เลกแรก พร้อมที่จะชนะทุกทีม ขณะที่ในเลกสอง ก็พร้อมที่จะแพ้ทุกทีมเช่นกัน

การชนะ ชลบุรี และ บีจี ในช่วงออกสตาร์ท ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ หรือต่อให้ การเจอกับ บุรีรัมย์ ในเกมนัดต่อไป พวกเขาก็มีโอกาสเอาชนะ พร้อมแย่งตำแหน่งจ่าฝูงมาครองได้

แต่บทพิสูจน์ ที่แท้จริงของพวกเขา ไม่ใช่การเจอทีมใหญ่ แต่มันคือการสู้กับตัวเอง สู้กับความกดดันที่จะเกิดขึ้นในช่วงที่หลายต่างคาดหวังว่า ปีนี้จะเป็นปีที่พวกเขาคว้าแชมป์

– ราชันที่ไร้บัลลังก์

ไม่มีสโมสรฟุตบอลหรือนักฟุตบอลคนไหน ที่อยากถูกจดจำว่าเกือบจะประสบความสำเร็จแล้ว และแน่นอนว่า แบงค็อก ที่ลงทุนไปมหาศาลอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาเอง ก็ต่างคาดหวังที่จะสลัดคำว่าเกือบ เป็นทำได้สักที

1 ดาวสีแดง บนโลโก้สโมสรตั้งแต่สมัยยังใช้ชื่อ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จะถูกเพิ่มเป็นสองดวงได้หรือไม่ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวของพวกเขา บางทีทีมที่น่ากลัวที่สุด สำหรับ แบงค็อกแล้ว อาจจะไม่ใช่ทีมอื่น แต่คือตัวของพวกเขาเอง ว่าจะสามารถก้าวข้ามผ่านคำว่าเกือบไปได้หรือไม่

เพราะสุดท้ายในกีฬาฟุตบอลไม่มีใครจดจำทีมที่ทำได้แค่เกือบ มีแต่คนที่จดจำแต่ทีมที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น