ดีพี กาญจนบุรี เอฟซ๊ เตรียมฟ้องคนส่งเรือง เลอันโดร อัสซัมเซา ไปให้ฟีฟ่า ผิดพลาด จำนวน 50 ล้านบาท ฐานทำให้ทีมเสียภาพลักษณ์
ดีพี กาญจนบุรี เอฟซี เตรียมฟ้องคนที่ส่งเรื่อง ไปถึงฟีฟ่า พาดพิงถึงสโมสร ในการค้างค่าใช้จ่าย เลอันโดร อัสสัมเซา จำนวน 50 ล้าน
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ฟีฟ่า ได้ส่งเรื่องถึงดีพี กาญฯ ที่ค้างจ่ายค่าเหนื่อยของ อัสซัมเซา แม้ตัวนักเตะจะไม่เคยเล่นให้ทีมมาก่อน
“ชี้แจง จากสโมสร ดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี กรณีข่าวที่ทางสโมสรดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี โดนฟีฟ่า ส่งหนังสือ ร้องเรียน กรณี อัสซัมเซา นักเตะเก่า ทีมเมืองกาญจน์ยูไนเต็ด ทีมที่ไม่ผ่านคลับฯและโดนยุบไป และให้ชี้แจง ต่อฟีฟ่า นั้นทางสโมสรดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี ขอชี้แจงผ่าน เพจสโมสร ดังนี้”
“1 ทางสโมสรดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรี ได้เข้ามาซื้อกิจการบริษัท สิงห์ระฆังทอง ทีมในไทยลีก 3 และเปลี่ยนแปลง ผู้ถือหุ้น จาก คุณมานะ (ขอสงวนนามสกุล )เป็นนายพลกฤต กล่ำเครือ เป็นกรรมการผู้ถือหุ้น และเปลี่ยนแปลงเอกสาร และหนังสือ ผู้ได้รับสิทธิจากส่งทีมในไทยลีก 3 ถูกต้องจากสมาคม และได้เปลี่ยนชื่อทีม จาก สิงห์ระฆังทอง เป็น ดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี จากเหตุผล 1.1ดราก้อนคือชื่อ เครื่องหมายการค้า ของเจ้าของ ทีม เพื่อต้องการเกิดเป็นมิติใหม่ เป็นทีมสโมสร ด้านพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ Solar ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด 1.2ปทุมวันคือเป็นการร่วมมือ ของสถาบันเทคโนโลยปทุมวันวิทยาเขตวังด้ง เพื่อยกระดับนักฟุตบอลไทยให้ได้รับการศึกษาควบคู่กับการเล่นฟุตบอล และอนาคตอาจจะขอใช้พื้นที่วิทยาเขตวังด้ง สร้างสนามซ้อม 1.3 กาญจนบุรี เป็นจังหวัดบ้านเกิด ของประธาน ที่เป็นคนจังหวัดกาญจนบุรีโดยกำเนิด และศึกษา โรงเรียนวิสุทธรังษีกาญจนบุรี มีความมุ่งมั่นอยากเห็นทีมบ้านเกิดไปเล่นในไทยลีก”
“2 Dragonsolar ไม่มีความเกี่ยวข้องในเชิงโครงสร้างหรือถือหุ้น ใดๆ กับทีม เมืองกาญจน์ยูไนเต็ด ที่ถูกยุบไป แต่เคยสนับสนุนในฐานะสปอนเซอร์ เท่านั้น ผู้สนับสนุนจึง เหมือนกับทีม ดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี เพราะทางสโมสรไม่สามารถหาเมนสปอนเซอร์มาสนับสนุนได้ จึงต้องใส่ เครื่องหมายการค้า Dragon Solar ไปในเสื้อทีมของตัวเอง เพราะในภาวะฟุตบอลไทยหาผู้สนับสนุนยาก จึงต้องพึ่งพาตัวเอง”
“3 .กรณีมีนักเตะบางคน ที่อยู่ในทีมที่ถูกยุบไปอยู่ในทีม ดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี ขอชี้แจงว่า นักเตะบางคน มีภูมิลำเนาในจังหวัดกาญจนบุรี และเคยทำผลงานได้ดี เขามีจิตสำนึกรักบ้านเกิด อยากเล่นให้ทีมในจังหวัดบ้านเกิด ไม่อยากไปเล่นต่างพื้นที่ ไม่แปลกที่จะ สมัครมาเล่นให้สโมสร ดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี เป็นเหตุผลของความมุ่งมั่นและความใฝ่ฝัน และเหตุผลทางค่าครองชีพ”
“4 .มีสตาฟบางคนอยู่ในทีมเมืองกาญจน์ยูไนเต็ด ยังคงทำงานอยู่ 1 คน เหตุผลเดียวกันคือ ต้องการอยู่ในทีมที่ใกล้บ้านมีค่าครองชีพที่ไม่สูง จึงไม่แปลกที่จะทำงานในจังหวัด 5 .สนามที่ใช้ในการแข่งขันเป็นสนามกลีบบัว เป็น สนามเดียวกับที่ เมืองกาญจน์ยูไนเต็ดที่ถูกยุบใช้ ชี้แจงดังนี้ สนามกลีบบัวเป็นสนามมาตรฐานสากล ที่ใช้ในการแข่งขันระดับสากล อยู่ในความดูแลที่ดีสวยงาม ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด กาญจนบุรี เป็นสนามที่ยื่นขอ Club ผ่านสนามเดียวในจังหวัด ทางสโมสรทำการขออนุญาตใช้ ตามระบบขั้นตอน ซึ่งมองว่าคล้ายเมืองกาญจน์ยูไนเต็ดไหม คล้าย แต่ก็ไม่ใช่ทีมเดียวกัน หากไม่ใช่ดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี ขอใช้สโมสรอื่นก็ขอใช้ตามขั้นตอนได้ ตามระเบียบการใช้สนาม ของ อบจ”
“6 .สโมสรดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีได้มีความมุ่งมั่นพัฒนา ใช้ความสามารถของนักเตะลงทำการแข่งขันขยันฝึกซัอมจนได้เลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 2 ไม่ใช่ทีมที่ยุบแล้วเปลี่ยนชื่อมาในไทยลีก2 อย่างที่โดนกล่าวหา 7 .สโมสรไม่มีโครงสร้างหรือชื่อบุคคล ชุดบริหารเก่าอยู่ในสโมสรดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี อยู่เลย ไม่มีทั่งทางพฤตินัย และนิตินัย หรือรับเงินสนับสนุนจากทีมที่ถูกยุบไป ซึ่งไม่มีความจำเป็นต้องเกี่ยวข้องใดๆ เพราะคนละชุดโครงสร้างการบริหาร
8 .การค้างค่าตัวนักเตะ ของอัสซัมเซา เป็นคู่สัญญากับสโมสรเมืองกาญจน์ยูไนเต็ด กับนักเตะเอง ซึงไม่ได้เกี่ยวข้อง กับสโมสรดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี ซึ่งเป็นคนละทีม ตัวนักเตะ ต้องไปหาช่องทางกฎหมาย ติดตามเอง ทางสโมสรดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซีไม่ได้เกี่ยวข้องผูกพันใดๆ ย้ำว่าคนละทีม คนละบริษัท ซึ่งแม้เป็นทีมในเมืองกาญจนบุรี แต่ก็ไม่ใช่ทีมเดียวที่ถูกยุบ 9.สโมสรดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซีไม่เคยทำสัญญาจ้างนักเตะที่ชื่อ อัสซัมเซา และไม่เคยรู้จัก เพราะนักเตะดังกล่าวไม่ผ่านคุณสมบัติของทีมงานจึงไม่เคยคิดที่จะจ้างหรือจะจ้าง 10 .จากการสืบค้นอัสซัมเซาเคยสังกัด สโมสรเมืองกาญจน์ยูไนเต็ด ซึ่งไม่ใช่ สโมสรดราก้อนปทุมวันกาญจนบุรีเอฟซี
“11.สโมสร ได้ผ่านคลับไลเซนซิ่ง เรียบร้อย ตามการตรวจสอบจากฝ่ายการแข่งขัน จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจงต่อฟีฟ่าใดๆ แต่ให้ความสำคัญในการยื่นต่อสมาคมฟุตบอลไทย ในเรื่องการชี้แจงดังกล่าว จากกรณีดังกล่าว การกระทำของกลุ่มบุคคล ที่ทำให้สโมสรเสื่อมเสียหรือเข้าใจผิด อันจะทำให้สโมสรของคนจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งกำลังเป็นความหวังของคนทั้งจังหวัดและคนไทยทั้งประเทศเสียหาย อันจะเกิดความเข้าใจผิดก็ดี ขอให้หยุดพฤติกรรม ทำให้สโมสรเสียหาย ทางสโมสรจะขอดำเนินการ ต่อสู้ อย่างที่สุด และขอต่อสู้ให้ชดเชยในความเสียหายนี้ เป็นเงินไม่น้อยกว่า 50 ล้าน กับผู้ทำหนังสือร้องเรียนต่อฟีฟ่า ทั่งทางกฎหมายไทยและกฎหมายสากล ในเรื่องราวอันเป็นเท็จ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดี บ่อนทำลายวงการฟุตบอลไทยทีกำลังจะกลับมีกระแสที่ดี และเป็นการป้องปรามให้กับสโมสรที่รับนักเตะในสังกัด อาจจะเกิดกรณีเดียวกันกับสโมสรและขอให้แฟนบอลที่รักและศรัทธาในสโมสรดรากัอนปทุมวันกาญจนบุรี ช่วยกันปกป้องศักดิ์ศรีของสโมสร ในเรื่องที่สโมสรไม่ได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้ ขอความเห็นใจ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้โปรดพิจารณา ตรวจสอบรับรอง แก่สมาชิก ทีได้รับผลกระทบความไม่เป็นธรรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับสโมสรที่ตั้งใจพัฒนาฟุตบอลไทยเพื่อเป็นรากฐานที่ดี ในการพัฒนานักเตะให้กับฟุตบอล ไทยเป็นกำลังที่ดีของทีมชาติสืบต่อไป ประธานสโมสร”