แชมป์ ไทยลีก 3 สมัย, แชมป์เอฟเอ คัพ 1 สมัย, แชมป์ลีก คัพ 2 สมัย พร้อมกับตำแหน่งดาวซัลโว ไทยลีก ได้อีก 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังทำไปกว่า 100 ประตู ตลอด 4 ปี ที่ค้าแข้งในเมืองไทย ทั้งหมดนับเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยมของนักเตะที่ชื่อ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต แนวรุกชาวบราซิล จนถูกยกให้เป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดที่เคยมาวาดลวดลายในเวทีไทยลีก
แน่นอนว่าการกลับมาค้าแข้งบนลีกสูงสุดของไทยอีกครั้งกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทำให้ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต เป็นนักเตะที่ถูกจับตามองจากแฟนบอลว่าเจ้าตัวจะระเบิดฟอร์มเหมือนที่เคยทำไว้ได้หรือไม่ โดยในวันนี้ช่วง BG TALK จะพาไปพูดคุยกับแข้งวัย 33 ปี ว่าอะไรที่ทำให้เขาตัดสินใจย้ายกลับมาค้าแข้งในเมืองไทยอีกครั้ง และอะไรคือเป้าหมายของเจ้าตัวกับทัพ “เดอะ แรบบิท” ในการเป็นสุดยอดทีมแห่ง ไทยลีก
“ผมรู้สึกใจมากที่ได้ย้ายมาร่วมทีมบีจี ปทุม ยูไนเต็ด นี่คือทีมที่ใหญ่มีความเป็นอาชีพและอุดมไปด้วยผู้เล่นฝีเท้าดีมากมาย” นี่เป็นความรู้สึกแรกที่ ดิโอโก้ เผยหลังย้ายมาร่วมทัพ “เดอะ แรบบิท” นอกจากนี้เจ้าตัวยังเผยต่ออีกว่าก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายมาเล่นในถิ่นลีโอ สเตเดี้ยม มีหลายสโมสรที่ติดต่อไปยังเจ้าตัว แต่หลังจากที่ได้คุยกับ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และ อันเดรส ตูเญซ ก็ทำให้เขาตัดสินใจไม่ยากในการย้ายทีมครั้งนี้
“มีหลายทีมยื่นข้อเสนอให้ผมพิจารณาเช่นกัน แต่หลังจากที่ผมได้คุยกับ วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และ อันเดรส ตูเญซ เกี่ยวกับสโมสรฯ ซึ่งพวกเขาก็พูดแต่เรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับสโมสรฯ และทีมเองก็แสดงความเป็นมืออาชีพและแสดงความชัดเจนว่าต้องการดึงผมมาร่วมทีม ผมจึงตัดสินใจที่จะมาที่นี่”
และเมื่อถามว่าเจ้าตัวตัดสินใจนานหรือไม่ในการย้ายทีมครั้งนี้ ศูนย์หน้าวัย 33 ปี เผยต่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมาก เพราะ บีจี ปทุมฯ คือตัวเลือกแรกของเขา
“ผมตัดสินใจได้ไม่ยากนัก เพราะหลายสโมสรจะใช้เวลานานมากในการพูดคุยในการเซ็นสัญญากับผม แต่กับบีจี ปทุมฯ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาและสโมสรฯเองก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพ ดังนั้นบีจี ปทุมฯ คือตัวเลือกแรกของผม”
การที่ ดิโอโก้ เคยค้าแข้งในเมืองไทยมาแล้ว นับเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจย้ายทีมครั้งนี้ โดยเฉพาะเสน่ห์ของสยามเมืองยิ้ม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาและครอบครัวกลับมาประเทศไทยอีกครั้ง
“ผมเคยลงเล่นในประเทศไทยมาหลายปีในช่วงก่อนหน้านี้ และผมกับครอบครัวก็ชอบประเทศไทยมาก รวมถึงผู้คนที่นี่ ผมมีโอกาสที่จะอยู่ที่มาเลเซียต่อได้ แต่เมื่อผมได้พูดคุยกับครอบครัวแล้ว ผมก็ตัดสินใจที่จะมาที่นี่ ผมรักประเทศนี้ ผมชอบฟุตบอลที่นี่ ผมจึงตัดสินใจที่จะกลับมาและแขวนสตั๊ดที่ประเทศไทย”
ผลงานอันยอดเยี่ยมที่เขาเคยฝากไว้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ย่อมทำให้เขาถูกคาดหวังจากแฟนบอล บีจีพียู ว่าเขาจะนำความสำเร็จมายังถิ่นลีโอ สเตเดี้ยม แต่ถึงอย่างไร ดิโอโก้ ก็ไม่รู้สึกกดดันในเรื่องนี้ และพร้อมแล้วที่จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่กับ บีจี ปทุมฯ
“ผมย้ำเสมอว่าผมจะทำงานให้เต็มที่เพื่อทีม และสิ่งที่ผมทำกับบุรีรัมย์ฯ มันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์เสมอ อะไรที่เกิดขึ้นกับบุรีรัมย์ฯก็จะเป็นประวัติศาสตร์ของไทยลีกตลอดไป แต่นี่คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของผม และผมต้องการจะเขียนมันกับบีจี ปทุมฯ ผมไม่รู้สึกกดดันเลย มันเป็นเรื่องดีที่ทีมมีผลงานที่ยอดเยี่ยม นี่คือโอกาสอันดีที่ผมจะได้ลงเล่นให้กับทีมและผมจะทำให้เต็มที่”
แน่นอนว่าการย้ายมาร่วมทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด สิ่งแรกที่ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ต้องเร่งทำคือการปรับตัวเข้ากับทีม ซึ่งเขาก็ยอมรับว่ารู้สึกโชคดีที่ได้เล่นร่วมกับผู้เล่นฝีเท้าดีมากมาย และทุกคนก็ช่วยเขาได้มากในการปรับตัว
“ผมดีใจที่ทีมมีผู้เล่นที่มีความสามารถหลายคน ทั้งคนที่มีประสบการณ์และผู้เล่นดาวรุ่ง ผมก็จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือพวกเขา แต่พวกเขาก็ต้องช่วยเหลือผมเช่นกัน เพราะฟุตบอลคือกีฬาทีม ผู้เล่น 11 คนต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างผลงานที่ดี ผมก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับทีม ตอนนี้ผมก็ได้เริ่มที่จะซ้อมกับทีมแล้ว แต่ผมต้องทำงานให้หนักมากกว่าเดิม ในทุกๆวัน เพื่อทำให้ผมสามารถเล่นร่วมกับทีมได้ และทำให้ร่างกายผมพร้อมที่จะลงเล่น เพราะผมไม่ได้ลงเล่นมาเกือบ 1-2 เดือน แต่สำหรับฟุตบอลก็เหมือนกันในทุกๆที่ คุณแค่สนุกไปกับมันและทำงานให้เต็มที่”
นอกจากการไล่ล่าแชมป์ไทยลีกแล้ว อีกหนึ่งภารกิจสำคัญของ ดิโอโก้ กับ บีจีพียู คือการพาทีมไปเล่นฟุตบอลถ้วยใหญ่ของเอเชียอย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาล 2021 ซึ่ง ดิโอโก้ ก็หวังว่าจะนำประสบการณ์ที่มีช่วยทีมให้ได้มากที่สุด และยังมั่นใจลึกๆว่า บีจี ปทุม ยูไนเต็ด จะทำผลงานได้ดีในระดับเอเชีย
“เรามีผู้เล่นหลายคนที่มีฝีเท้าดีและมีหลายคนที่เคยมีประสบการณ์ลงเล่นใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก มาก่อน เช่นเดียวกับผม และถึงแม้ว่าเราจะมีเกมการแข่งขันที่เข้มข้นหลายเกม แต่ผมก็คิดว่าเรามีโอกาสที่จะทำผลงานได้ดีในรายการนี้ และไปได้ไกลกว่ารอบแบ่งกลุ่ม”
สุดท้าย ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต ก็อยากจะขอบคุณแฟนบอล บีจีพียู ที่ให้การต้อนรับเขาเป็นอย่างดี แน่นอนว่าเขาจะทำงานให้หนักเพื่อทีม และหวังว่าจะได้เจอกับแฟนบอลเร็วๆนี้ “ผมก็ขอบคุณแฟนบอล บีจี ปทุมฯ ทุกคนที่ให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี ผมจะทำงานอย่างหนักเพื่อทีมและเพื่อพวกคุณทุกคน และผมหวังว่าจะได้เจอกับทุกคน ผมอยากสัมผัสบรรยากาศเสียงเชียร์ในสนามแห่งนี้ แล้วเจอกันนะครับ”
ขอบคุณ BG Pathum United