หลุยส์ ดิอาซ ลงมาแผลงฤทธิ์ และช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ พร้อมผ่านเข้ารอบต่อไปของ เอฟเอ คัพ พบกับ นอริช ซิตี้
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4 ที่สนาม แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล รองจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีก เปิดบ้านพบกับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทีมโซนท้ายตารางของ แชมเปี้ยนชิพ
เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ใช้ ทาคุมิ มินามิโนะ เป็นแนวรุกร่วมกับ ดิโอโก้ โชต้า และ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน ส่วนหลุยส์ ดิอาซ มีชื่อเป็นตัวสำรอง
ครึ่งแรกสกอร์ยัง 0-0 แต่ครึ่งหลังนาที 53 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูออกนำ จากฟรีคิกที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดให้ ดีโอโก้ โชต้า โหม่งเข้าไปให้ เจ้าถิ่นนำก่อน 1-0
นาที 68 หลุยส์ ดิอาซ แผลงฤทธิ์ทันที หลังไปฉกบอลจากแนวรับ คาร์ดิฟฟ์ ก่อนจ่ายให้ ทาคุมิ มินามิโนะ ยิงเข้าไปให้ ลิเวอร์พูล นำห่างเป็น 2-0
เท่านั้นไม่พอนาที 76 แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เปิดให้ ฮาร์วีย์ เอลเลียต พักบอลก่อนหมุนตัวยิงด้วยซ้ายเข้าไปให้สกอร์ห่างเป็น 3-0
แต่นาที 80 คาร์ดิฟฟ์ มาได้ประตูปลอบใจ จาก รูบิน โคลวิล แต่ก็ทำได้แค่นั้น จบเกม ลิเวอร์พูล เอาชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ไป 3-1 ผ่านเข้ารอบต่อไป พบกับ นอริช ซิตี้
รายชื่อ 11 ตัวจริง
ลิเวอร์พูล : ควีวีน เคลเลเฮอร์ (GK), เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, คอนสแตนตินอส ซิมิคาส, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, นาบี เกอิต้า, เคอร์ติส โจนส์, ทาคุมิ มินามิโนะ, ดิโอโก้ โชต้า, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ : ดิลเลี่ยน ฟิลลิปส์ (GK), เพอร์รี่ เอ็นจี, โอลิเวอร์ เดนแฮม, มาร์ค แม็กกินเนสส์, อเดน ฟลิ้นต์, โจเอล บาแกน, วิล โวลต์, เอลี่ คิงส์, มาร์ลอน แพ็ค, มาร์ก แฮร์ริส, เจมส์ คอลลินส์
