ช้าง มอบเงิน 10 ล้าน สนับสนุนสมาคมฯ เข้ากองทุนช้างศึกเป็นปีที่สอง ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา
วันที่ 10 สิงหาคม 2560 เวลา 13.00 น. ณ ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเครื่องดื่ม “ตราช้าง” จัดกิจกรรมมอบเงินสนับสนุน สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จำนวน 10 ล้านบาท เข้าสู่กองทุนช้างศึก เป็นปีที่สอง
กิจกรรมดังกล่าวนำโดย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย คุณสุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
โดย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “สำหรับการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ไม่สามารถทำได้ใน 1 ปี หรือ 2 ปี และต้องพัฒนากันในระยะยาวนะครับ ซึ่งเรื่องนี้ผมได้เรียนทางผู้ใหญ่ของช้างว่า ถ้าจะสนับสนุนสมาคมฯ อย่างยั่งยืนและถาวร ต้องสนับสนุนในระยะยาว ช้างจึงมีโครงการมอบเงินสนับสนุนในการพัฒนาวงการฟุตบอล เป็นจำนวน 100 ล้านบาท ในระยะ 10 ปี ซึ่งจะสนับสนุนปีละ 10 ล้านบาท ซึ่งปีนี้เข้าสู่ปีที่ 2”
“โครงงานนี้เป็นโครงการที่ดีนะครับ นอกจากหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างที่ช้างได้ทำเพื่อวงการฟุตบอลไทย และกีฬาชนิดอื่นๆ มาโดยตลอด ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ ช้าง ให้ความสำคัญกับวงการกีฬาไทยครับ”
ด้าน คุณสุรพล อุทินทุ ผู้อำนวยการสำนักประสานงานภายนอก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ตามที่บริษัท ช้างอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โดย “ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มตราช้าง” ได้จัดตั้งกองทุนช้างศึกและมอบเงินสนับสนุนจำนวน 100 ล้านบาท โดยแบ่งจ่าย 10 ปี ปีละ 10 ล้าน และในปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่ทางช้างได้มอบเงินสนับสนุนอีก 10 ล้านบาท รวม 20 ล้านบาท เพื่อให้ทางสมาคมฯได้นำไปใช้ในการพัฒนาและวางรากฐานตั้งแต่ในระดับเยาวชนและเติบโตไปอย่างมั่นคง ตามแผนที่ทางสมาคมได้วางไว้อีกว่า 20 ปี ทีมชาติไทยจะไปบอลโลก”
“เราจึงต้องให้ความสำคัญกับเยาวชน เพราะเยาวชนในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า โดยจะต้องเริ่มจากการสร้างกระดูกตั้งแต่วัยเยาว์ ทำการฝึกฝนและพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวไปสู่การแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นไป และก้าวไปสู่การเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ต่อไปในอนาคต”
สำหรับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ นำไปพัฒนาและวางรากฐานฟุตบอลไทย ปีละ 10 ล้าน เป็นระยะเวลา 10 ปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 100 ล้านบาท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและผลักดันนักเตะเยาวชนให้มีความแข็งแกร่งและก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ในอนาคต
ข้อมูและภาพ : Fair